สื่อท้องถิ่นสหรัฐรายงานว่า มีบุคลากรทางการแพทย์ในเมืองฮิวสตันของสหรัฐที่ไม่ปฏิบัติตามระบบของโรงพยาบาลด้านการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยื่นใบลาออกหรือถูกไล่ออกแล้วกว่า 150 คน
เท็กซัส ทริบูน (Texas Tribune) สื่อท้องถิ่นรัฐเท็กซัสรายงานคำกล่าวของ เกล สมิธ โฆษกหญิงของ ฮิวสตัน เมธอดิสต์ (Houston Methodist) หนึ่งในโรงพยาบาลชุดแรกที่ออกข้อกำหนดด้านการฉีดวัคซีนว่า โรงพยาบาลได้ยุติการจ้างงานหรืออนุมัติการลาออกของพนักงานแล้ว 153 คน
รายงานระบุว่า ในเดือนเมษายน ฮิวสตัน เมธอดิสต์ ประกาศข้อกำหนดให้พนักงานฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายในวันที่ 7 มิ.ย. เพื่อรักษาตำแหน่งงานของตน โดยมีพนักงานปฏิบัติตาม 24,947 คน และโรงพยาบาลได้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน 178 คนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนตามกำหนด และให้เวลาเพิ่ม 2 สัปดาห์เพื่อให้ส่งหลักฐานยืนยันว่าตนได้ฉีดวัคซีนแล้ว โดยสมิธระบุว่าในช่วงดังกล่าวมีพนักงานกลุ่มนี้ไปฉีดวัคซีนรวม 25 คน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ช่วงต้นเดือนมิถุนายน ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นแห่งหนึ่งของสหรัฐปฏิเสธการฟ้องร้องของหนึ่งในพนักงานที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน โดยพนักงานรายนี้อ้างว่านโยบายดังกล่าวของโรงพยาบาลขัดต่อกฎหมาย
มาร์ก บูม ประธานกรรมการบริหาร หรือ ซีอีโอ ของฮิวสตัน เมธอดิสต์ ชื่นชมการตัดสินใจของศาลและกล่าวว่า "พนักงานและแพทย์ตัดสินใจโดยคำนึงถึงผู้ป่วย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของทุกการกระทำของเราเสมอ"
หลังจาก ฮิวสตัน เมธอดิสต์ ออกกฎดังกล่าว มีองค์กรการแพทย์ในสหรัฐจำนวนมากที่ทยอยออกกฎบังคับฉีดวัคซีนเช่นกัน