สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ของสหรัฐกล่าวเตือนเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาซึ่งมีอัตราการติดเชื้อสูง ขณะที่ชาวอเมริกันจำนวนมากเตรียมออกเดินทางในช่วงวันหยุดยาวสัปดาห์นี้เนื่องในวันชาติสหรัฐ
คณะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาซึ่งพบเป็นครั้งแรกในอินเดียนั้น มีอัตราการติดเชื้อสูงกว่าสายพันธุ์อื่นมาก โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า ปัจจุบันราว 25% ของผู้ป่วยรายใหม่ในสหรัฐมีความเกี่ยวข้องกับสายพันธุ์นี้ สูงขึ้นจาก 6% เมื่อช่วงต้นเดือนมิ.ย.
"เมื่อพิจารณาสถานการณ์ทั่วประเทศจะเห็นว่าเรามีความก้าวหน้าที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ถ้าดูสถานการณ์ของแต่ละรัฐและเทศมณฑล จะเห็นได้ชัดว่าชุมชนที่ประชาชนยังไม่ฉีดวัคซีนนั้นยังมีความสุ่มเสี่ยง" โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการ CDC กล่าวในวันพฤหัสบดี (1 ก.ค.) "และFดิฉันคาดว่าในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้านี้ เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาจะระบาดแซงหน้าสายพันธุ์อัลฟา"
หน่วยงานด้านสุขภาพท้องถิ่นของรัฐอาร์คันซอซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุดในประเทศระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อในรัฐพุ่งสูงขึ้น
ส่วนเทศมณฑลลอสแอนเจลิสที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศนั้น เจ้าหน้าที่รัฐได้กล่าวเตือนถึงโอกาสเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะเมื่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
เมื่อวันพฤหัสบดี (1 ก.ค.) ลอสแอนเจลิสตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 506 ราย ซึ่งเป็นยอดสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเม.ย.เป็นต้นมา และสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายวันของช่วงกลางเดือนมิ.ย.ถึง 2 เท่า
"เราแนะนำให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ร่มซึ่งไม่สามารถตรวจสอบสถานะการฉีดวัคซีนของผู้คนได้ ซึ่งจะช่วยระงับการแพร่ระบาด ขณะที่เรากำลังทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม" บาร์บารา เฟอร์เรอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายสาธารณสุขของเทศมณฑลกล่าว "เรายังมีความเสี่ยงและจำนวนผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้นมากพอจะทำให้เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาทำอันตรายต่อกระบวนการฟื้นฟูของเราได้ การสวมหน้ากากอนามัยจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดครั้งใหม่"
เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐได้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสให้ 70% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ของประเทศภายในวันที่ 4 ก.ค.ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ก่อนทำเนียบขาวได้ยืนยันแล้วว่าสหรัฐไม่สามารถทำตามเป้าหมายดังกล่าวได้
ทั้งนี้ ข้อมูลของ CDC ระบุว่า ล่าสุดมีประชาชนชาวอเมริกันฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วราว 47.1% ขณะที่มีผู้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสแล้ว 54.7%