สื่อท้องถิ่นอิตาลีรายงานว่า ทางการอิตาลียืนยันข้อบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้บุคลากรที่ทำงานในภาคบริการดูแลสุขภาพ
"การฉีดวัคซีนเป็นข้อบังคับสำหรับทุกคนที่ทำงานในสถานพยาบาล" โรแบร์โต สเปรานซา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าว "เราจะเดินหน้าบังคับใช้ข้อบังคับนี้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากวัคซีนถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่สุดในการยุติโรคระบาดใหญ่ระลอกนี้"
นายสเปรานซาออกมายืนยันข้อบังคับข้างต้น หลังจากมีรายงานบุคลากรการแพทย์ทางตอนเหนือของประเทศจำนวน 300 คนยื่นอุทธรณ์ต่อศาลในเมืองเบรสเซีย เพื่อคัดค้านข้อบังคับดังกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แม้การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะเป็นเพียง "คำแนะนำที่ควรปฏิบัติอย่างยิ่ง" ไม่ใช่ข้อบังคับในประเทศ แต่รัฐบาลกำหนดให้บุคลากรการแพทย์เป็นหนึ่งในกลุ่มประชากรที่ต้องเข้ารับวัคซีนเพื่อให้สามารถทำงานต่อไปได้
อย่างไรก็ดี กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ยื่นอุทธรณ์อ้างว่า ข้อบังคับดังกล่าวขัดต่อมาตราที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญของประเทศ ซึ่งกำหนดสิทธิด้านสุขภาพของพลเมืองไว้ว่าประชาชนไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวทางสุขภาพใดๆ หากไม่เป็นไปตามความประสงค์ของตน
มีการคาดการณ์ว่าศาลจะพิจารณาคำอุทธรณ์ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ โดยฟิลิปโป อเนลลี ประธานสหพันธ์ระเบียบการแพทย์แห่งชาติอิตาลี (FNOMCEO) ได้เข้าร่วมหารือในประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติมเมื่อวานนี้
"ผมทราบดีว่าศาลรัฐธรรมนูญของเราตัดสินว่าการฉีดวัคซีนไม่ใช่ข้อบังคับ แต่เป็นข้อกำหนดสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์" อเนลลีกล่าว "ดังนั้นพวกเขามีทางเลือกคือหากพวกเขาต้องการทำหน้าที่แพทย์ต่อไป พวกเขาต้องเข้ารับวัคซีน"
ข้อมูลทางการล่าสุดชี้ว่า โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในอิตาลียังคงดำเนินต่อไป โดยอิตาลีฉีดวัคซีนให้ประชาชนมากกว่า 54 ล้านโดส และประชาชนมากกว่า 21 ล้านคน หรือมากกว่า 39% ของประชาชนอายุ 12 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
ด้านฟรานเชสโก ฟิกลิอูโล ผู้บัญชาการฉุกเฉินด้านโรคโควิด-19 ของอิตาลี ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่าเป้าหมายของรัฐบาลคือการฉีดวัคซีนให้ประชาชนร้อยละ 80 ภายในวันที่ 30 ก.ย. นี้
ทั้งนี้ ทางกระทรวงตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 480 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 31 ราย ในวันจันทร์ (5 ก.ค.) โดยอิตาลีมีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 4.2 ล้านราย ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยหายดีกว่า 4 ล้านราย ผู้ป่วยที่ยังรักษาตัว 43,531 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 127,680 ราย นับตั้งแต่การระบาดใหญ่อุบัติขึ้นในประเทศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน