สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลายรัฐในสหรัฐกำลังเผชิญปัญหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น และผู้ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งสูงขึ้น ขณะโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (Delta) แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า มีการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากขึ้นในรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนลดลง เช่น แอละแบมา, อาร์คันซอ, ลุยเซียนา และมิสซิสซิปปี
ในรัฐที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ผู้อยู่อาศัยในสัดส่วนต่ำกว่าภาพรวมของประเทศมีอัตราผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 3 เท่า
อาชิช จา คณบดีวิทยาลัยสาธารณสุขศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยบราวน์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า พื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำเริ่มมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาพุ่งสูงแล้ว ซึ่งพบกรณีนี้ได้ในรัฐอาร์คันซอ, มิสซูรี และไวโอมิง ที่คาดว่าจะมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก
"ทุกครั้งที่มีการระบาดครั้งใหญ่ในวงกว้าง มันจะกลายเป็นแหล่งขยายพันธุ์ของเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์" จากล่าว
CDC รายงานว่า ผู้ป่วยใหม่ในประเทศประมาณ 25% มีส่วนเชื่อมโยงกับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา เพิ่มขึ้นจากต้นเดือนมิ.ย. ซึ่งอยู่ที่ 6% ด้านคณะผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการป้องกันเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนแก่ประชากรให้มากกว่า 70% ของประชากรทั้งหมด
นิตยสารฟอร์บส์ รายงานว่าเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมาว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสแก่ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 70% ภายในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ แต่มีเพียง 18 รัฐท้องถิ่น และกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เท่านั้นที่บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
รายงานระบุว่าหลายพื้นที่ในภูมิภาคตอนใต้ ภูมิภาคตะวันตกกลาง และภูมิภาคตะวันออก ฉีดวัคซีนล่าช้าอย่างมาก ซึ่งเป็นผลจากการแบ่งแยกตามนโยบายของพรรคการเมือง
ทั้งนี้ สหรัฐ มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุดในช่วงกลางเดือนเม.ย.ด้วยอัตราการฉีดวัคซีนเฉลี่ย 7 วัน อยู่ที่ราว 3.4 ล้านโดสต่อวัน จากนั้นอัตราการฉีดวัคซีนชะลอตัวลง โดย CDC ระบุว่าปัจจุบันประชากรสหรัฐ 47.5% ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะประชากร 55% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส
คณะผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่รัฐกังวลว่าเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตาที่สามารถแพร่เชื้อได้สูง จะทำให้เกิดผู้ป่วยรายใหม่ต่อไป และหากเกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มประชากรที่ไม่ได้รับวัคซีนก็อาจกลายพันธุ์เป็นรูปแบบที่ติดต่อได้ง่ายยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐเน้นย้ำว่าสหรัฐจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในวงกว้างและป้องกันการติดเชื้อของผู้ป่วยรายใหม่ตลอดปีนี้