กัมพูชาเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวคจากประเทศจีนให้เยาวชนอายุ 12-17 ปี เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา
สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ พาหลานร่วมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่จุดฉีดวัคซีนในพระราชวังสันติภาพ กรุงพนมเปญ โดยฮุนเซนแถลงข่าวว่ากัมพูชามีเยาวชนราว 2 ล้านคน พร้อมทั้งเชิญชวนพ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีน
"การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้เด็กในวันนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ หลังจากโรคระบาดส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างร้ายแรง ทำให้เกือบทุกประเทศทั่วโลกต้องปิดโรงเรียน" ฮุนเซนกล่าว
ฮุนเซนกล่าวว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้เยาวชนจะช่วยให้กัมพูชาสามารถกลับมาเปิดโรงเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไปได้ หลังจากต้องปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมย้ำว่าสิทธิการมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก และเหตุที่รัฐบาลบังคับใช้ทุกมาตรการอันเข้มงวดก็เพื่อรักษาชีวิตประชาชน
กัมพูชาเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. โดยมีจีนเป็นผู้จัดหาวัคซีนรายหลัก และหากนับถึงวันที่ 31 ก.ค. กัมพูชาฉีดวัคซีนโดสแรกให้ผู้ใหญ่แล้ว 7.3 ล้านคน คิดเป็น 73% ของประชากรวัยผู้ใหญ่กลุ่มเป้าหมายสิบล้านคน
ฮุนเซนเสริมว่ากัมพูชาตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชน 12 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 10 ล้านคน และเยาวชน 2 ล้านคน หรือ 75% ของประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน ภายในเดือนพ.ย.นี้
ทางด้านออร์ แวนดิน รัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวคให้เยาวชนอายุ 12-17 ปี จะดำเนินการเช่นเดียวกับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยเยาวชนจะได้รับวัคซีน 2 โดส แบบเว้นระยะห่างราว 21-28 วัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ณ วันที่ 2 ส.ค. กระทรวงสาธารณสุขพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 560 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยจากต่างประเทศ 169 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 78,474 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 22 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 1,442 ราย ส่วนผู้ที่รักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 763 ราย รวมเป็น 71,517 ราย