สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะตุลาการรัฐธรรมนูญของฝรั่งเศสอนุมัติมาตรการที่รัฐบาลเสนอให้ขยายการใช้งานใบรับรองสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ครอบคลุมสถานที่สาธารณะมากขึ้น พร้อมบังคับบุคลากรทางการแพทย์ฉีดวัคซีน โดยชี้ว่ามาตรการเหล่านี้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญของประเทศ
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนก.ค. รัฐบาลฝรั่งเศสเสนอว่าประชาชนที่ต้องการใช้บริการคาเฟ่ ร้านอาหาร โรงยิม ศูนย์การค้า แม้กระทั่งโรงพยาบาล (ยกเว้นเหตุฉุกเฉิน) จะต้องแสดงใบรับรองที่ยืนยันการฉีดวัคซีนครบโดส และมีผลตรวจเชื้อเป็นลบ หรือเพิ่งหายจากโรคโควิด-19 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ติดเชื้อได้ง่าย
ฝรั่งเศสบังคับใช้ใบรับรองข้างต้นตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. แต่จำกัดเฉพาะการรวมตัวกันเกิน 50 คน ในสถานที่ทางวัฒนธรรมและสันทนาการ อาทิ โรงภาพยนตร์และพิพิธภัณฑ์
ขณะเดียวกันคณะตุลาการปฏิเสธข้อเสนอของรัฐบาลที่ต้องการกำหนดให้ผู้มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกกักตัว 10 วัน รวมถึงเงื่อนไขที่อนุญาตนายจ้างปลดพนักงานประจำหรือพนักงานสัญญาจ้างชั่วคราวที่ไม่มีใบรับรองสุขภาพดังกล่าว
รายงานระบุว่า ชุดข้อจำกัดใหม่ ซึ่งรัฐสภาลงมติเห็นชอบเมื่อเดือนก.ค. และจะมีผลบังคับใช้วันที่ 9 ส.ค. สร้างความโกรธเคืองแก่ประชาชน แม้ฝ่ายบริหารชี้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นต่อการควบคุมไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา และหลีกเลี่ยงการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบใหม่ แต่นักวิจารณ์แย้งว่ามาตรการนี้ทำลายเสรีภาพส่วนบุคคลของประชาชน
สถิติจากกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศสระบุว่า ปัจจุบันมีชาวฝรั่งเศสฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสกว่า 36 ล้านคน ขณะกำลังเผชิญการแพร่ระบาดระลอกที่ 4 ซึ่งมีสาเหตุมาจากไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยฝรั่งเศสมีผู้ป่วยสะสมแตะ 6.2 ล้านราย เมื่อนับตั้งแต่เริ่มเกิดการแพร่ระบาด ส่วนยอดผู้ป่วยเสียชีวิตอยู่ที่เกือบ 120,000 ราย
สถาบันปาสเตอร์ หนึ่งในศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์แห่งสำคัญของฝรั่งเศส ระบุว่า การเร่งกระบวนการฉีดวัคซีน การขยายการใช้งานใบรับรองสุขภาพ และการดำเนินมาตรการป้องกัน อาจมีผลต่อระดับความร้ายแรงของการแพร่ระบาดที่คาดว่าจะแตะจุดสูงสุดในเดือนก.ย.นี้