นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเผยว่า ออสเตรเลียรับมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์เพิ่มอีก 1 ล้านโดส หลังบรรลุข้อตกลงกับโปแลนด์ โดยวัคซีนชุดใหม่ขนส่งถึงออสเตรเลียเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) ก่อนนำไปฉีดให้ประชาชนในกลุ่มอายุ 20-39 ปี
วัคซีนของไฟเซอร์ชุดใหม่ส่วนหนึ่ง จำนวน 530,010 โดส จะจัดส่งด่วนไปยัง 12 พื้นที่ของรัฐบาลท้องถิ่นมหานครซิดนีย์ ซึ่งตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามคำแนะนำของศาสตราจารย์พอล เคลลีย์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของออสเตรเลีย
"คนหนุ่มสาวชาวออสเตรเลียเป็นแรงงานที่มีความสำคัญต่อประเทศ วัคซีนที่จะจัดส่งไปให้นั้นไม่เพียงช่วยปกป้องพวกเขา แต่ยังปกป้องคนที่พวกเขารัก รัฐ และประเทศ" นายมอร์ริสันกล่าว
ขณะเดียวกัน เขตเมืองหลวงออสเตรเลีย (ACT) ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 2 รายเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการล็อกดาวน์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ทำให้ยอดผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวในกรุงแคนเบอร์รารวมอยู่ที่ 9 ราย
ส่วนเมื่อวันพฤหัสบดี (12 ส.ค.) พื้นที่เขตเมืองหลวงได้บังคับใช้ข้อจำกัดอันเข้มงวด หลังตรวจพบผู้ติดเชื้อรายแรกในรอบกว่า 12 เดือน ทำให้กรุงแคนเบอร์ราเป็นเมืองใหญ่อีกแห่งที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เช่นเดียวกับนครซิดนีย์และเมลเบิร์น
กระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียระบุว่า นับจนถึงวันที่ 14 ส.ค. ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 38,657 ราย และพบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 493 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย และเป็นที่ตั้งของนครซิดนีย์ พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 415 ราย และเสียชีวิต 4 รายเมื่อวานนี้