สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลการศึกษาใหม่บ่งชี้ว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจแพร่ระบาดโดยไม่มีการตรวจพบทางตอนเหนือของอิตาลีมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนส.ค. หรือต้นเดือนก.ย. 2562 ซึ่งเป็นเวลาหลายเดือนก่อนจะมีรายงานการตรวจพบผู้ป่วยรายแรกอย่างเป็นทางการ
รายงานผลการศึกษา "หลักฐานทางโมเลกุลของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในตัวอย่างจากผู้ป่วยที่มีผื่นคล้ายหัดตั้งแต่ปลายฤดูร้อนปี 2562 ในแคว้นลอมบาร์ดีทางตอนเหนือของอิตาลี" จัดทำขึ้นโดยคณะนักวิจัย 16 คน รวมถึงผู้เขียนอาวุโส 4 คน ซึ่งสามคนมาจากมหาวิทยาลัยมิลาน และหนึ่งคนจากสถาบันทางสุขภาพระดับสูงในกรุงโรม
รายงานซึ่งมีความยาว 27 หน้ายังไม่ผ่านการตรวจทานโดยผู้เชี่ยวชาญ และได้รับการเผยแพร่ผ่านเอสเอสอาร์เอ็น (SSRN) ซึ่งเป็นคลังเอกสารที่ยังไม่ได้รับการตีพิมพ์ เมื่อช่วงต้นเดือนส.ค. โดยอ้างอิงข้อมูลการตรวจสอบตัวอย่างผิวหนัง 435 ตัวอย่างจากแคว้นลอมบาร์ดี เพื่อนำมาทดสอบหาโรคหัดและโรคหัดเยอรมัน ตั้งแต่ปี 2561-2564
คณะนักวิจัยตรวจสอบตัวอย่างผิวหนังกลุ่มข้างต้นและพบหลักฐานทางโมเลกุลของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน 13 ตัวอย่าง โดยพบการติดเชื้ออย่างเร็วที่สุดเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2562 ขณะเดียวกันรายงานระบุว่า ไม่พบหลักฐานชัดเจนของการติดเชื้อโรคโควิด-19 ใน 281 ตัวอย่างช่วงเดือนส.ค. 2561 จนถึงเดือนก.ค. 2562
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า "เราคาดว่าต้นกำเนิดของการติดเชื้อไวรัสในมนุษย์เริ่มต้นขึ้นช่วงปลายเดือนมิ.ย.จนถึงปลายเดือนส.ค. 2562"