สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะรัฐมนตรีจีนเปิดเผยแผนปฏิบัติการที่จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึงระดับสูงสุดก่อนปี 2573 ซึ่งผลักดันวัตถุประสงค์หลักสำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (2564-2568) และฉบับที่ 15 (2569-2573) ครอบคลุมการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานที่ไม่ใช่ฟอสซิล เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
แผนดังกล่าวระบุว่า ภายในปี 2573 สัดส่วนการใช้พลังงานที่ไม่ใช่ฟอสซิลจะอยู่ที่ประมาณ 25% และการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จะลดลงมากกว่า 65% เมื่อเทียบกับปี 2548
เจ้าหน้าที่คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงอยู่ในระยะสร้างความเป็นอุตสาหกรรมและความเป็นเมือง ทั้งยังเผชิญภารกิจหนักในการพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนั้นการใช้พลังงานจึงยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนระดับสูงสุดและความเป็นกลางทางคาร์บอนของจีนนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายและข้อกำหนดของความตกลงปารีส (Paris Agreement) อย่างสมบูรณ์ และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศ พร้อมเสริมว่าจีนจะประสบความสำเร็จในการลดการปล่อยคาร์บอนได้มากที่สุดผ่านแผนการปล่อยคาร์บอนระดับสูงสุดนี้
พันธกิจสำคัญของแผนดังกล่าวสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนระดับสูงสุดก่อนปี 2573 ซึ่งครอบคลุมการส่งเสริมคมนาคมคาร์บอนต่ำและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน และการสนับสนุนนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
ขณะเดียวกันจีนจะพัฒนาระบบบัญชีเชิงสถิติว่าด้วยการปล่อยคาร์บอนอันเป็นมาตรฐานและหนึ่งเดียว ปรับปรุงกฎหมาย ข้อบังคับ และมาตรฐานต่าง ๆ ตลอดจนปรับนโยบายทางเศรษฐกิจให้เหมาะสม และสร้างกลไกตลาด เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนทางนโยบาย
สำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ จีนจะมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในโลกาภิบาลด้านสภาพภูมิอากาศ ดำเนินความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี และการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งพัฒนาการสร้างเครือข่ายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ที่ล้วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม