สหรัฐเผยยอดเสียชีวิตจากโควิดปีนี้สูงกว่าปี 63 ถึง 2 เท่า เหตุไวรัสเดลตาระบาด

ข่าวต่างประเทศ Monday November 22, 2021 15:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) รายงานโดยอ้างข้อมูลจากรัฐบาลกลางและมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในปี 2564 สูงกว่ายอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในปี 2563 แล้ว แสดงว่าภัยคุกคามของเชื้อไวรัสยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยชี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 พุ่งทะลุ 770,800 รายในวันเสาร์ (20 พ.ย.) ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการระบาดใหญ่ปีนี้ สูงกว่า 2 เท่าของยอดผู้เสียชีวิตเมื่อปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 385,343 ราย หากอิงจากข้อมูลใบมรณบัตรล่าสุดของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC)

"การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่ติดเชื้อได้ง่าย และอัตราการฉีดวัคซีนต่ำในบางชุมชน ถือเป็นปัจจัยสำคัญ" วอลล์สตรีทเจอร์นัลระบุ "เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ผู้ป่วยและผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในหลายพื้นที่ อาทิ แถบนิวอิงแลนด์และมิดเวสต์ตอนบน โดยจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ยรอบ 7 วัน ใกล้แตะระดับ 90,000 รายต่อวัน เทียบกับเดือนก่อน ซึ่งอยู่ที่เกือบ 70,000 รายต่อวัน "

ขณะเดียวกัน โรคโควิด-19 ก็ยังเป็นภัยคุกคามในพื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุดบางแห่ง เนื่องจากหลายแห่งกำลังเผชิญกับการระบาดอีกครั้ง ขณะทั่วโลกต่างเตรียมพร้อมที่จะจัดการและอยู่ร่วมกับโรคระบาดในระยะยาว

รายงานระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐปีนี้ สร้างความประหลาดใจให้แพทย์บางคน เนื่องจากพวกเขาเคยคาดว่าการฉีดวัคซีนและมาตรการป้องกันอย่างการเว้นระยะห่างทางสังคมและการลดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะ จะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสและลดจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงได้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อย่างไรก็ดี กลุ่มนักระบาดวิทยาเผยว่าอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ บวกกับความเบื่อหน่ายจากการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันต่าง ๆ อาทิ การสวมหน้ากากอนามัย ทำให้ไวรัสสายพันธุ์เดลตาสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ