คณะรัฐนตรีกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของสหภาพยุโรป (EU) อนุมัติแผนปฏิบัติการด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศของภูมิภาค ซึ่งจะนำไปสู่การจัดตั้งกองกำลังตอบโต้เร็ว พร้อมกำลังพล 5,000 นาย ที่สามารถประจำการอย่างรวดเร็วกรณีเกิดวิกฤต
นายโจเซฟ บอเรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านกิจการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงของอียู แถลงข่าวว่าแผนปฏิบัติการ "เข็มทิศยุทธศาสตร์" (Strategic Compass) ไม่ใช่การรับมือกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครน แต่เป็น "จุดเปลี่ยนของอียูในฐานะผู้จัดสรรความมั่นคง" และเป็นขั้นตอนสำคัญของนโยบายความมั่นคงและการป้องกันประเทศของยุโรป
ทั้งนี้ แผนปฏิบัติการเข็มทิศยุทธศาสตร์กำหนดการส่งเสริมความแข็งแกร่งของนโยบายความมั่นคงและการป้องกันประเทศของอียูภายในปี 2573
นายบอร์เรลล์กล่าวว่า แผนปฏิบัติการจะช่วยให้อียูสามารถ "ลงมือปฏิบัติอย่างแน่วแน่และเป็นหนึ่งเดียวกัน" ตลอดจนยกระดับขีดความสามารถรับมือวิกฤต เพิ่มความแข็งแกร่ง และลงทุนด้านศักยภาพและนวัตกรรมการป้องกันประเทศที่จำเป็น
"ความแข็งแกร่งของอียูเกิดจากความมีเอกภาพ ความสมานฉันท์ และความมุ่งมั่น โดยจุดประสงค์ของเข็มทิศยุทธศาสตร์คือการทำให้อียูเข้มแข็งขึ้นและเป็นผู้จัดสรรความมั่นคงที่มีความสามารถมากขึ้น" อียูระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง พร้อมย้ำว่าเข็มทิศยุทธศาสตร์จะขยับขยายความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ของอียู
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แผนปฏิบัติการยังประกอบด้วยการพัฒนายุทธศาสตร์ด้านอวกาศของอียู สำหรับความมั่นคงและการป้องกันประเทศ การออกนโยบายการป้องกันประเทศทางไซเบอร์ เพื่อเตรียมพร้อมและรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ได้ดียิ่งขึ้น และการขยายขีดความสามารถทางการวิเคราะห์ข่าวกรอง