สถาบันทะเลและบรรยากาศแห่งโปรตุเกส (IPMA) เผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (30 ก.ค.) ว่า โปรตุเกสกำลังเผชิญภัยแล้งรุนแรงที่สุด โดยมีพื้นที่ 67.9% ประสบภัยแล้งขั้นสาหัส 28.4% ประสบภัยแล้งขั้นรุนแรง และที่เหลืออีก 3.7% ประสบภัยแล้งปานกลางในเดือนมิ.ย.
IPMA ระบุว่า ปี 2565 เป็นปีแห้งแล้งที่สุดของโปรตุเกสนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติภัยแล้งเมื่อปี 2474 โดยภัยแล้งเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อราว 1 ปีก่อน ซึ่งทำให้เขตภาคพื้นทวีปทั่วประเทศประสบภัยแล้งสาหัสแม้ในฤดูหนาว
นอกจากนั้นสถาบันฯ กล่าวว่า พื้นที่ในเขตโปรตุเกส 5 แห่งอยู่ภายใต้การแจ้งเตือนสีส้ม ซึ่งรุนแรงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 จากการแจ้งเตือนทั้งหมด 3 ระดับ ไปจนถึงวันที่ 1 ส.ค. สืบเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงอย่างต่อเนื่อง
สำนักงานเหตุฉุกเฉินและการคุ้มครองพลเรือนแห่งชาติ (ANEPC) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายจากไฟไหม้ เนื่องมาจากความชื้นที่อยู่ในระดับต่ำ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลโปรตุเกสดำเนินหลายมาตรการในการตรวจสอบและจำกัดการใช้น้ำสำหรับผลิตพลังงานและการชลประทาน เพื่อรับประกันการบริโภคน้ำของประชาชน และได้ตัดสินใจเสริมสร้างการเก็บกักน้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อน รวมทั้งปรับปรุงเทคโนโลยีที่แม่นยำเพื่อประหยัดน้ำในการชลประทาน