สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) สถาบันสุขภาพแห่งชาติอิตาลี (ISS) รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ (West Nile virus) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่มียุงเป็นพาหะ เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าเมื่อสัปดาห์ก่อน และมียอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสดังกล่าวแล้วอย่างน้อย 7 ราย
เมื่อนับถึงวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ของอิตาลีสะสมอยู่ที่ 94 ราย นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 42 ราย โดยจากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด พบว่ามี 55 ราย หรือมากกว่าครึ่งหนึ่ง ติดเชื้อไวรัสชนิดทำลายประสาทที่มีอันตรายมากกว่า
จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ในอิตาลี มี 5 รายอยู่ในแคว้นเวเนโตทางตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่เหลืออยู่ในแคว้นปิเอมอนเตและแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญาแห่งละ 1 ราย
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสชนิดนี้แต่กำลังมีการวิจัยอยู่ โดยสถาบันฯ แนะนำผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับยุงโดยใช้ยาไล่แมลงหรือสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนัง และกำจัดหรือหลีกเลี่ยงบริเวณที่ยุงสามารถแพร่พันธุ์ได้ง่าย เช่น จุดที่มีน้ำขังสะสม
ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่าอาการของไข้เวสต์ไนล์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสชื่อเดียวกัน อาจประกอบด้วยอาการปวดศีรษะ มีไข้สูง คอตึง มึนงง วิงเวียนศีรษะ อาการโคม่า ตัวสั่น ชัก กล้ามเนื้ออ่อนแรง และเป็นอัมพาต โดยโรคนี้มักไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่อาจเกิดขึ้นได้ในบางกรณีโดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่สุขภาพไม่แข็งแรง