สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะผู้เชี่ยวชาญจะเรียกเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ลุ่มน้ำคองโก (Congo Basin) ว่าสายพันธุ์ 1 (Clade I) และเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก (West African) ว่าสายพันธุ์ 2 (Clade II) ซึ่งสายพันธุ์ 2 ประกอบด้วย 2 สายพันธุ์ย่อย ได้แก่ สายพันธุ์ 2เอ (IIa) และสายพันธุ์ 2บี (IIb) โดยสายพันธุ์ 2บี เป็นกลุ่มสายพันธุ์หลักที่กำลังแพร่ระบาดในปี 2022
องค์การฯ ระบุว่าชื่อใหม่เหล่านี้ควรถูกปรับใช้ทันที ส่วนเชื้อไวรัสฯ ที่ค้นพบใหม่ โรคที่เกี่ยวข้อง และเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ย่อยต่างๆ ควรถูกตั้งชื่อที่หลีกเลี่ยงการดูหมิ่นทางวัฒนธรรม สังคม ชาติ ภูมิภาค อาชีพ หรือชาติพันธุ์ และลดผลกระทบเชิงลบต่อการค้า การเดินทาง การท่องเที่ยว หรือสวัสดิภาพสัตว์ให้เหลือน้อยที่สุด
อนึ่ง โรคฝีดาษลิงถูกตั้งชื่อหลังมีการค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 2501 โดยมีการตั้งชื่อเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ย่อยที่สำคัญตามภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ที่พบการแพร่ระบาด
องค์การฯ ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมว่าการระบาดของโรคฝีดาษลิงในหลายประเทศในปัจจุบันกลายเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศแล้ว
รายงานจากองค์การฯ ว่าด้วยการระบาดของโรคฝีดาษลิง เมื่อวันพุธ (10 ส.ค.) ระบุว่ามีผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่ได้รับการยืนยันผลจากห้องปฏิบัติการรวม 27,814 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคดังกล่าว 11 ราย ใน 89 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก โดยยุโรปและทวีปอเมริกาเผชิญการระบาดหนักที่สุด