ผลการศึกษาจากกลุ่มมหาวิทยาลัยของสหรัฐ พบความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างภาวะอุณหภูมิอากาศพุ่งสูงกับความเสี่ยงการเกิดเหตุยิงกันเพิ่มขึ้นใน 100 เมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดของประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะนักวิจัยของสาขาวิชาสาธารณสุข มหาวิทยาลัยบอสตัน และสาขาวิชาสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้วิเคราะห์อุณหภูมิรายวันและเหตุยิงกันมากกว่า 116,000 ครั้ง ระหว่างปี 2558-2563 ใน 100 เมืองที่มีจำนวนเหตุยิงทำร้ายร่างกายสูงสุด
ผลวิเคราะห์พบว่า เหตุยิงกันจำนวน 7,973 ครั้ง เกิดจากอุณหภูมิสูงเกินค่าเฉลี่ย ซึ่งเป็นผลจากฤดูกาลและความแตกต่างของสภาพภูมิอากาศระดับภูมิภาค โดยภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกกลาง มีเหตุยิงกันเพิ่มขึ้นมากที่สุดในวันที่อากาศร้อนกว่าปกติ
อนึ่ง เหตุความรุนแรงจากปืนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ในหมู่เด็กและวัยรุ่นอเมริกัน ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวเลวร้ายลงอย่างมากในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19
กัน ไวโอเลนซ์ อาร์ไคฟ์ (Gun Violence Archive) ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยไม่แสวงหาผลกำไรของสหรัฐระบุว่า สหรัฐเผชิญเหตุกราดยิงหลายร้อยครั้ง และเหตุความรุนแรงจากปืนได้คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 42,000 ราย ในปีนี้