สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มุ่งยับยั้งสองสายพันธุ์ (Bivalent) เป็นโดสกระตุ้นนั้น สามารถป้องกันได้มากยิ่งขึ้นต่อการเกิดอาการป่วยหนักซึ่งต้องเข้าพบแพทย์ในแผนกฉุกเฉินกรณีเร่งด่วนและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคโควิด-19
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนก.ย. ศูนย์ CDC แนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบป้องกันสองสายพันธุ์ ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ เป็นโดสกระตุ้น ซึ่งมีส่วนประกอบของเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยบีเอ.4 และบีเอ.5
ขณะภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากวัคซีนป้องกันสายพันธุ์เดียวลดน้อยลง วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบป้องกันสองสายพันธุ์นี้ จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น นับตั้งแต่การฉีดวัคซีนป้องกันสายพันธุ์เดียวก่อนหน้า
ข้อมูลจาก CDC แสดงให้เห็นว่า ประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นแบบป้องกันสองสายพันธุ์ ถัดจากการฉีดวัคซีนป้องกันสายพันธุ์เดียวนั้น จะช่วยป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคโควิด-19 ได้สูงถึง 57% เมื่อเทียบกับการไม่ฉีดวัคซีน และ 45% เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนป้องกันสายพันธุ์เดียวในช่วง 11 เดือนก่อนหน้านี้
ด้านหนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า แม้ตัวเลขผู้ป่วยจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่จำนวนผู้เข้ารับวัคซีนยังอยู่ในระดับต่ำ โดยพบว่ามีชาวอเมริกันอายุ 5 ปีขึ้นไปเพียง 14% ที่เข้ารับวัคซีนโดสกระตุ้นข้างต้น
ทั้งนี้ CDC เรียกร้องให้ประชาชนเฝ้าติดตามคำแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงเข้ารับวัคซีนโดสกระตุ้นแบบป้องกันสองสายพันธุ์ หากมีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด