สำนักข่าวซินหัวรายงานบทความจากหนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ ซึ่งระบุว่า จำนวนประชากรสหรัฐที่สัมผัสหมอกควันรุนแรงเพิ่มขึ้น 27 เท่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่การเผชิญเหตุการณ์หมอกควันที่รุนแรงกว่าเพิ่มขึ้นถึง 11,000 เท่า
ควันไฟป่าที่ลุกลามในแคนาดาส่งผลให้หลายรัฐของสหรัฐออกคำเตือนคุณภาพอากาศ โดยท้องฟ้าเหนือนครนิวยอร์กมืดลงอย่างรวดเร็วในช่วงบ่ายวันพุธ (7 มิ.ย.) ขณะเคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ระบุว่าคุณภาพอากาศที่แย่ลงนี้ถือเป็น "วิกฤตฉุกเฉิน"
ขณะเดียวกัน รัฐบาลรัฐนิวยอร์กของสหรัฐออกคำแนะนำด้านสุขภาพ เนื่องด้วยคุณภาพอากาศในพื้นที่ตอนกลางและตะวันออกของรัฐแย่ลง ซึ่งเป็นผลจากไฟป่าในแคนาดา
ทั้งนี้ เจวา แลงจ์ ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักข่าวฮีตแมป (Heatmap) คำนวณตั้งแต่ก่อนเกิดควันไฟป่าเมื่อวันอังคาร (6 มิ.ย.) ว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐสูดดมมลพิษจากไฟป่าในปีนี้มากกว่าประชาชนส่วนใหญ่บริเวณชายฝั่งตะวันตก