ผลสำรวจออนไลน์จากกลุ่มบ้านพักคนชราของญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม พบ 27% ของบ้านพักคนชราและสถานบริการที่เกี่ยวข้องในญี่ปุ่น อาจล้มละลายหรือปิดกิจการภายในไม่กี่ปีข้างหน้า หากราคาและค่าสาธารณูปโภคยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การสำรวจข้างต้นครอบคลุมบ้านพักคนชราและสถานบริการที่เกี่ยวข้องทั่วญี่ปุ่นราว 1,200 แห่ง ซึ่งกว่า 90% เผยว่าได้รับผลกระทบจากราคาและต้นทุนที่สูงขึ้น รวมถึงพบข้อกังวลเกี่ยวกับคุณภาพการบริการที่อาจลดลงเพราะบางแห่งต้องลดพนักงานหรือเลื่อนการจ้างงาน
ขณะผลสำรวจวิธีจัดการกับต้นทุนและราคาที่เพิ่มขึ้นของบ้านพักคนชราและสถานบริการที่เกี่ยวข้องทั่วญี่ปุ่น พบคำตอบที่ถูกเลือกมากที่สุดคือประหยัดการใช้ไฟฟ้าและสินค้าต่าง ๆ รองลงมาคือการถอนเงินออมมาใช้จ่าย และลดหรือละเว้นการขึ้นเงินเดือนและโบนัส
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของมินคาอิเคียว (Minkaikyo) สมาคมผู้ให้บริการบ้านพักคนชราของญี่ปุ่น เผยว่าบ้านพักคนชราและสถานบริการที่เกี่ยวข้องไม่สามารถส่งต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้บริโภคเหมือนบริษัทอื่นๆ ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ