สำนักข่าวซินหัวเปิดเผยรายงานทบทวนสภาพภูมิอากาศโลกประจำปีซึ่งเผยแพร่ทางออนไลน์เมื่อวันพุธ (6 ก.ย.) ระบุว่า ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก ระดับน้ำทะเลทั่วโลก และความร้อนในมหาสมุทร พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2565
รายงานสถานะสภาพภูมิอากาศ (State of the Climate) ฉบับที่ 33 รวบรวมโดยศูนย์ข้อมูลสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ สังกัดองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอ้างอิงข้อมูลที่มาจากคณะนักวิทยาศาสตร์ในกว่า 60 ประเทศ จำนวนมากกว่า 570 คน
รายงานนี้เป็นข้อมูลฉบับปรับปรุงที่มีความครอบคลุมมากที่สุดเกี่ยวกับตัวบ่งชี้สภาพภูมิอากาศของโลก เหตุการณ์สภาพอากาศที่โดดเด่น และข้อมูลอื่นๆ ซึ่งรวบรวมจากสถานีเฝ้าติดตามสภาพแวดล้อม รวมถึงเครื่องมือที่ตั้งอยู่บนบก ในน้ำ บนน้ำแข็ง และในอวกาศ
ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2565 และภาวะโลกร้อนยังคงเกิดขึ้นทั่วโลก โดยผลวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าอุณหภูมิพื้นผิวทั่วโลกประจำปีอยู่ที่ 0.25-0.30 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2534-2566
นอกจากนั้นปรากฏการณ์ลานีญา (La Nina) ในมหาสมุทรแปซิฟิกแถบเส้นศูนย์สูตร ซึ่งก่อตัวขึ้นเมื่อกลางปี 2563 และยุติไปในปี 2564 และกลับมาเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดปี 2565 ขณะคลื่นความร้อนพุ่งสูงทำลายสถิติทั่วโลก โดยยุโรปตะวันตกเผชิญคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมถึง 14 วันในเดือนก.ค.
ด้านภูมิภาคตอนกลางและตะวันออกของเอเชียเผชิญความร้อนในช่วงฤดูร้อนสูงเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำแยงซี ซึ่งนำไปสู่ภาวะแห้งแล้งรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า 38 ล้านคน และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงถึง 4.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ