สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตั้งแต่วันเสาร์ (23 ก.ย.) รถไฟใต้ดินหลายสายในกรุงปักกิ่งของจีนได้เริ่มเข้าร่วมโครงการนำร่องด้านการขนส่งพัสดุด่วนในช่วงที่ไม่ใช่เวลาเร่งด่วน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความแออัดของการจราจรบนท้องถนนรวมถึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
ข้อมูลจากหวัง ซูหลิง เจ้าหน้าที่สถาบันการคมนาคมแห่งปักกิ่งระบุว่า เครือข่ายการขนส่งทางรางในย่านเมืองของปักกิ่ง ขยายตัวกว้างขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีรถไฟวิ่งให้บริการรวม 27 เส้นทาง ครอบคลุมเป็นระยะทางรวม 807 กิโลเมตร
หวังกล่าวว่า มหานครแห่งนี้ต้องจัดการกับพัสดุด่วนราว 15 ล้านชิ้นต่อวัน และส่วนใหญ่จัดส่งผ่านการขนส่งทางถนนในเมือง โครงการนำร่องข้างต้นจึงเป็นการใช้ประโยชน์จากกำลังการขนส่งส่วนเกินของระบบรถไฟใต้ดินในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารไม่มาก พร้อมคาดว่าจะสามารถบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดพร้อมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
โจว หยวน เจ้าหน้าที่คณะกรรมาธิการการคมนาคมประจำเทศบาลกรุงปักกิ่งให้ข้อมูลว่า เพื่อรับรองว่าการปฏิบัติงานของเส้นทางรถไฟขนส่งพัสดุด่วนนำร่องนั้นจะเป็นไปอย่างปลอดภัยและเป็นระบบระเบียบ คณะกรรมาธิการฯ จึงกำหนดว่าสินค้าที่ขนส่งนั้นจะต้องไม่อยู่ในรายการสิ่งของต้องห้ามบนรถไฟใต้ดินของปักกิ่ง และจะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัย
ทั้งนี้ โจวกล่าวว่าหลายบริษัทที่เข้าร่วมโครงการนี้ได้ออกแบบกล่องส่งพัสดุด่วนแบบใช้ซ้ำได้ ซึ่งมีขนาดสอดคล้องกับระบบการขนส่งทางรางในเมือง ทั้งยังพัฒนารถเข็นพัสดุที่สามารถอำนวยความสะดวกและรับรองความปลอดภัยได้โดยเฉพาะขึ้นอีกด้วย