รายงานจากหนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ (SCMP) ระบุว่าผู้ปกครองในหลายรัฐของสหรัฐฯ นิยมส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนที่สอนภาษาจีนกลางล้วนในชั้นเรียน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจุบันสิ่งที่เรียกว่าโครงการเรียนภาษาจีนกลางแบบเจ้าของภาษา พบได้ใน 32 รัฐของสหรัฐฯ และวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากภาครัฐนั้นกระจายอยู่ใน 31 รัฐ
รายงานระบุว่าเหตุผลที่ผู้ปกครองกระตือรือร้นที่จะส่งบุตรหลานเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเป็นเพราะต้องการให้เด็กๆ ได้รับมุมมองระดับโลกและโอกาสในชีวิต โดยโครงการประเภทนี้เปิดสอนในโรงเรียนชั้นประถม มัธยมต้น และมัธยมปลายรวมทั้งหมด 407 แห่ง เมื่อนับถึงเดือนธันวาคม
แซม ไวต์ หนึ่งในผู้ปกครอง กล่าวว่าเหตุผลเรียบง่ายสำหรับเรื่องนี้คือการคว้าประโยชน์จากโอกาสอันพิเศษ เพื่อให้ลูกๆ ของเราได้เปิดกว้างทางความคิดมากขึ้น โดยไวต์ส่งลูกเข้าเรียนที่โรงเรียนวอชิงตัน อวี้อิง (Washington Yu Ying Public Charter School) ซึ่งเปิดสอนภาษาจีนกลางแบบเจ้าของภาษาสำหรับเด็กชั้นเตรียมอนุบาลถึงชั้นประถม 5
รายงานเผยว่าโครงการเรียนภาษาจีนกลางข้างต้นเฟื่องฟูในช่วงการบริหารงานของบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยแม้แนวโน้มความสัมพันธ์ทวิภาคีจะร่วงสู่ขาลงในสมัยของรัฐบาลชุดต่อๆ มา แต่ความต้องการโอกาสในการเรียนรู้ภาษาจีนยังคงแข็งแกร่ง
ในบรรดาโครงการเรียนรู้แบบเจ้าของภาษาที่ได้รับทุนสนับสนุนจากภาครัฐราว 340 โครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน ประมาณหนึ่งในสามก่อตั้งขึ้นในยุคหลังรัฐบาลของโอบามา โดยโครงการในเขตการศึกษาบางแห่งถูกตัดลดทุนสนับสนุน ส่งผลให้ผู้ปกครองทุ่มเทความพยายามเพื่อรักษาโครงการเหล่านี้ไว้
ในส่วนของทำเลที่ตั้ง โครงการเรียนภาษาจีนกลางประเภทนี้กำลังเฟื่องฟูในวอชิงตันทางชายฝั่งตะวันออก และในรัฐยูทาห์ทางตะวันตก
อลิซาเบธ ไวส์ ผู้ก่อตั้งสภาผู้ปกครองการเรียนภาษาจีนกลางแบบเจ้าของภาษาในแคลิฟอร์เนีย เผยว่ากลุ่มผู้ปกครองยังคงมองว่าการเรียนภาษาจีนกลางเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่งในการปลูกฝังความรู้ทางวิชาการให้บุตรหลาน แม้ตระหนักถึงความตึงเครียดทางการเมืองในระดับสูงระหว่างสองประเทศ
ไวส์กล่าวทิ้งท้ายว่าคนเป็นพ่อแม่ไม่ใช่นักการเมือง พวกเขาแค่อยากให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดี และมีโอกาสมากที่สุดเท่าที่จะทำได้