เศรษฐกิจปาเลสไตน์เผชิญวิกฤตรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นขึ้นมาก่อน

นายโมฮัมเหม็ด อาลามูร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจแห่งชาติปาเลสไตน์ กล่าวเตือนเมื่อวันเสาร์ (25 พ.ค.) ว่า เศรษฐกิจปาเลสไตน์กำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮามาส-อิสราเอลในฉนวนกาซาที่กำลังดำเนินอยู่

นายอาลามูร์ระบุว่า "สงคราม" และการปิดล้อมทางการเงินและเศรษฐกิจที่ดำเนินการโดยรัฐบาลอิสราเอล กำลังขัดขวางกิจกรรมเชิงพาณิชย์ และคาดว่าอาจส่งผลให้เศรษฐกิจปาเลสไตน์หดตัวถึง 10%

รายงานของธนาคารโลกที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (23 พ.ค.) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจปาเลสไตน์จะหดตัวราว 6.5-9.4% ในปีนี้

อาลามูร์เปิดเผยว่า เศรษฐกิจปาเลสไตน์สูญเสียเงินราว 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 733 ล้านบาท) ทุกๆ วัน เนื่องจากภาคการผลิตที่ต้องยุติลงอย่างสิ้นเชิงในฉนวนกาซา การหยุดชะงักในเขตเวสต์แบงก์ การว่างงานของคนงาน รวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและกำลังการซื้อที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายอาลามูร์เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศบีบให้รัฐบาลอิสราเอลหยุด "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" และยุติการปิดล้อมทางการเงินและเศรษฐกิจซึ่งถือเป็น "การแบล็กเมล์ทางการเมือง" (political blackmail)

ธนาคารโลกระบุในรายงานว่า การคลังสาธารณะของทางการปาเลสไตน์ย่ำแย่ลงอย่างมากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่การคลังสาธารณะจะล่มสลายอย่างมีนัยสำคัญ

รายงานระบุว่า เมื่อนับถึงสิ้นปี 2566 ช่องว่างทางการเงิน (financing gap) ในท้องถิ่นมีมูลค่าสูงถึง 682 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.5 หมื่นล้านบาท) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจนแตะที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.4 หมื่นล้านบาท)