สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อี้หลง-2เอช (Wing Loong-2H) ซึ่งเป็นอากาศยานไร้คนขับ (UAV) หรือโดรนขนาดใหญ่ที่จีนพัฒนาขึ้นเอง ได้ถูกนำมาช่วยภารกิจกู้ภัยหลังเกิดแผ่นดินไหว 6.8 แมกนิจูดในเขตปกครองตนเองทิเบต (ซีจ้าง) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
ในวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) บริษัทอุตสาหกรรมการบินแห่งประเทศจีน (AVIC) ผู้ผลิตอี้หลง-2เอช ระบุว่า หน่วยงานจัดการเหตุฉุกเฉินของทิเบตได้ส่งโดรนอี้หลง-2เอช ไปปฏิบัติภารกิจประเมินภัยพิบัติในอำเภอติ้งรื่อ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ในวันอังคารและวันพุธ (7-8 ม.ค.)
โดรนดังกล่าวส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์และภาพความละเอียดสูงของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวไปยังหน่วยงานจัดการเหตุฉุกเฉิน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการระบุความเสี่ยง การติดตามภัยพิบัติ และปฏิบัติการกู้ภัยแบบกำหนดเป้าหมาย
อี้หลง-2เอช ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า-แสง (electro-optical device) และเรดาร์ช่องเปิดสังเคราะห์ (SAR) เพื่อรวบรวมข้อมูลสำคัญ เช่น อาคารที่พังถล่ม ตำแหน่งของคนที่ติดค้างอยู่ใต้ซากปรักหักพัง แผนผังสถานที่กู้ภัยและจุดพักพิง ตลอดจนการกระจายกำลังกู้ภัยภาคพื้นดินแบบเรียลไทม์
ก่อนหน้านี้ โดรนดังกล่าวเคยถูกนำไปใช้ช่วยงานรับมือภัยพิบัติในเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ มาแล้ว เช่น พายุฝน แผ่นดินไหว และไฟป่า
ทั้งนี้ อำเภอติ้งรื่อ ในนครซีกาเจ (รื่อคาเจ๋อ) ของทิเบต ประสบเหตุแผ่นดินไหว 6.8 แมกนิจูด เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร (7 ม.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 126 ราย และผู้บาดเจ็บ 188 ราย โดยช่วยชีวิตประชาชนได้แล้ว 407 คน