กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--ไอพรอสเพค (ประเทศไทย)
"เหวียน ซวน ฟุค" นายกฯเวียดนาม ได้หารือกับ " สารัชถ์ รัตนาวะดี " ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ กัลฟ์ฯ เผยสนับสนุนพลังงานทดแทน และขอให้ลงทุนต่อเนื่อง ย้ำอย่าละทิ้งโอกาสด้านการลงทุนในเวียดนาม
นายเหวียน ซวน ฟุค นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้พบกับนาย สารัชถ์ รัตนาวะดี ผู้ก่อตั้งและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดิวิล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) โดยระบุว่า เวียดนามตอบรับการลงทุนในพลังงานทดแทน หรือพลังงานจากแสงอาทิตย์ของกัลฟ์ฯ พร้อมระบุว่า รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ กับโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพลังงานประเภทนี้ และไม่ได้สนับสนุนให้ใช้พลังงานจากถ่านหิน และต้องการให้บริษัทพลังงานชั้นนำของไทยอย่างกัลฟ์เดินหน้าส่งเสริมการลงทุนในส่วนนี้ในเวียดนามต่อไป
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ย้ำว่า ปัจจุบันไทยได้เข้ามาลงทุนในโครงการต่างๆในเวียดนามกว่า 490 โครงการ มีมูลค่ารวมเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความสำเร็จในการเข้ามาลงทุนทางธุรกิจในเวียดนามของบรรดาผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ที่บรรดานักลงทุนชาวไทยมีส่วนร่วม อาทิ โครงการ Southern Petrochemical Complex Project ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เรียกร้องให้บริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดิวิล็อปเมนท์ อย่าละทิ้งโอกาสด้านการลงทุนในเวียดนาม
นอกจากนี้ ผู้นำเวียดนามยังรับปากว่า รัฐบาลฮานอยจะสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ดี เอื้อต่อการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในเวียดนาม ซึ่งรวมถึงในอุตสาหกรรมพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้บรรดาผู้บริหารของบริษัทกัลฟ์ ทำงานร่วมกับกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม เพื่อกำหนดราคาและร่วมมือกันในด้านต่างๆ ที่เป็นการสนับสนุนการลงทุน ขณะเดียวกันก็ย่ำว่า บริษัทกัลฟ์ต้องกำหนดราคาในลักษณะที่สมเหตุสมผลและเป็นราคาที่สามารถแข่งขันได้ เมื่อมีบริษัทหลายแห่งเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ผู้ก่อตั้งและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดิวิล็อปเมนท์ กล่าวว่า "เราขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี เหวียน ซวน ฟุค ของเวียดนามที่ให้การสนับสนุนเราด้วยดีตลอดมา บริษัทเราสนใจในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและที่ผ่านมา ได้ร่วมมือกับหุ้นส่วนหลายแห่งในเวียดนามเพื่อผลักดันโครงการบางโครงการให้บรรลุผลสำเร็จ"
นอกจากนี้ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ยังกล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าศึกษาและเพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานจากแสงอาทิตย์ในเวียดนาม พร้อมทั้งมั่นใจว่านโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ของรัฐบาลเวียดนาม จะช่วยให้โครงการต่างๆ บรรลุตามเป้าและดึงดูดให้บรรดานักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในเวียดนามมากขึ้น