กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์
หุ้นกู้ บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ครั้งที่ 1/2562 ได้รับผลตอบรับจากผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ดีเกินคาด
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) นำโดยนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ได้ระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกัน มูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จในการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ครั้งนี้เป็นอย่างสูง โดยเป็นการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทครั้งแรกหลังจาก IPO ท่ามกลางสภาวะตลาดดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงได้รับผลตอบรับจากผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่อย่างล้นหลามโดยผู้ลงทุนแสดงความจำนงในการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทเกินกว่าที่บริษัทมีแผนเสนอขายถึงเกือบ 4 เท่า
หุ้นกู้ของ GULF ชุดใหม่นี้มีจำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.73% จำนวน 2,000 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.28% จำนวน 2,500 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.61% จำนวน 2,000 ล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.85% จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด มีมูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท นั้น ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ในระดับ "A-"จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2561 ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ในช่วงวันที่ 23 – 24 มกราคม พ.ศ.2562 และจัดออกหุ้นกู้ในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ รวมทั้งมีธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ด้วย
บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ ไปใช้เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมและรองรับแผนการลงทุนของบริษัทในต่างประเทศ และเชื่อมั่นว่าจะเป็นการสร้างฐานนักลงทุน ทั้งผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทในอนาคต การสนับสนุนจากผู้ลงทุน ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในบริษัท ทั้งด้านการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูงและยาวนานกว่า 2 ทศวรรษกับความสำเร็จในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อให้กัลฟ์เดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นหนึ่งในผู้นำด้านพลังงานของประเทศไทยต่อไป