กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--ทีเส็บ
ทีเส็บจัดสัมมนาเสมือนจริงผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไมซ์ไทยกับชีวิตวิถีใหม่หลังโควิด 19 ขับเคลื่อนธุรกิจไมซ์รองรับการจัดงานหลังมาตรการผ่อนปรน ดึงคีย์แมนสำคัญ นำโดย รองนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ร่วมพูดคุยเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไมซ์ทั่วประเทศ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในงานสัมมนารูปแบบการประชุมเสมือนจริง หัวข้อ “Post COVID 19: ชีวิตวิถีใหม่ กับการจัดระเบียบและขับเคลื่อนสร้างความพร้อมกรุงเทพและเมืองหลักเพื่อการจัดงาน” ว่า “สถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นับว่าเป็นความท้าทายของรัฐบาลทุกประเทศทั่วโลก ที่ต้องดูแลทั้งการระบาดของโรค และผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนไปพร้อมกัน ประเทศที่ประสบความสำเร็จที่แท้จริง จึงไม่ใช่ประเทศที่หยุดการระบาดได้เท่านั้น แต่เป็นประเทศที่สามารถสร้างความสมดุลในการควบคุมการระบาดพร้อมกับการประคับประคองเศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีความปรกติสุขที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ในวันที่โลกยังไม่มีวัคซีนป้องกัน”
“ที่ผ่านมา บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานทางด้านสาธารณสุข รัฐบาล และภาคเอกชน ต่างทำงานร่วมกันอย่างหนักเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และสามารถเริ่มผ่อนคลายมาตรการทางสังคมภาคบังคับ หรือ “มาตรการล็อคดาวน์บางส่วน” ไปได้ระดับหนึ่งแล้ว เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยยังคงมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง และมีมาตรการเยียวยาผลกระทบจาก COVID-19 ที่จะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการไมซ์ไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่วิถีใหม่นี้ไปให้ได้ โดยเฉพาะมิติ ด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการจัดงานและกิจกรรมไมซ์ รวมถึงส่งเสริมจัดทำแนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE Venue Hygiene Guidelines) ส่วนด้านมิติฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจและสังคม มุ่งเน้นส่งเสริมสาขาเศรษฐกิจที่มีความได้เปรียบอย่างธุรกิจไมซ์ที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นให้เกิดการสร้างงานเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไมซ์และฟื้นฟูธุรกิจให้กลับมาเร็วที่สุด”
นายอนุทิน กล่าวว่า “ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์หลังโควิด 19 ประเทศไทยมีโอกาสที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเป็นศูนย์กลางไมซ์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องถึง 3 ด้าน คือ ศูนย์กลางไมซ์และการท่องเที่ยวปลอดภัย ศูนย์กลางการแพทย์และสาธารณสุข และศูนย์กลางอาหารปลอดภัยของโลก ซึ่งไทยมีความพร้อมทั้งด้านจุดหมายปลายทาง มาตรฐานทางด้านสาธารณสุขซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงศักยภาพในการผลิตอาหารป้อนโลก โดยต้องนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนการทำธุรกิจให้มากขึ้นรับกับโลกตามวิถีใหม่”
ด้านนางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวเสริมว่า “ทีเส็บดำเนินการสอดรับกับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริม และฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การสนับสนุนให้สถานที่จัดงานที่ได้มาตรฐานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standard - TMVS) ยกระดับมาตรฐานด้านสาธารณสุขให้กับสถานที่จัดงานเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้จัดงาน และผู้ใช้บริการ, การสนับสนุนการใช้งานระบบการจัดงานออนไลน์ เช่น Webinar เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ และบุคลากรด้านไมซ์นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการจัดงาน, และจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสาร TCEB Covid-19 Center เพื่อสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องอย่างทันท่วงทีให้กับกลุ่มเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศ”
“วันนี้แนวทางขับเคลื่อนฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ คือ ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเร่งเดินหน้ากระตุ้นการจัดงานไมซ์ในประเทศ ทั้งการจัดประชุมสัมมนาและงานแสดงสินค้าตามแนวทางการผ่อนปรนของรัฐบาล โดยเบื้องต้นมุ่งเน้นส่งเสริมการจัดงานของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ให้จัดประชุมสัมมนาในโรงแรมสถานที่จัดงานที่มีมาตรฐาน และจัดงานแสดงสินค้าในพื้นที่ไม่เกิน 20,000 ตารางเมตร โดยเริ่มจากเมืองไมซ์ ที่มีความพร้อมตามหลักปฏิบัติทางด้านสาธารณสุขก่อน ซึ่งได้เตรียมความพร้อมบุคลากรประจำสำนักงานทั้ง 4 ภูมิภาค เพื่อลงทำงานเชิงรุกกระจายในแต่ละพื้นที่ร่วมกับจังหวัด สมาคม หน่วยงานและผู้ประกอบการในท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างงานในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ”
ภาพประกอบ : http://shorturl.at/fnqEP