บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ("CK") รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องโดยทำกำไรสุทธิ 1,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในงวดเดียวกันที่อัตราร้อยละ 35.51 รายได้ก่อสร้าง 27,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้นที่อัตราร้อยละ 94.48 รายได้รวม 28,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้นที่อัตราร้อยละ 88.02 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 พร้อมลุยประมูลโครงการเมกะโปรเจ็กต์ปีหน้า
นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ ("CK") เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานของ CK ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีผลประกอบการเป็นบวกตามที่คาดการณ์ โดยรับรู้รายได้จากการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในปีนี้เป็นจำนวนมากทั้งโครงการในประเทศและต่างประเทศ อาทิโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงด้านใต้ ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ, โครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ และโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ในสปป.ลาว ที่สามารถทยอยรับรู้รายได้ในสัดส่วนที่มากขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทในปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
พร้อมลุยโครงการเมกะโปรเจ็กต์
สำหรับปี 2567 CK มีความพร้อมลุยประมูลโครงการเมกะโปรเจ็กต์ที่คาดว่าจะเริ่มทยอยเปิดประมูลช่วงต้นปีอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 งามวงศ์วาน - พระราม 9 (Double Deck) วงเงิน 35,000 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงิน 96,000 ล้านบาท ที่คาดว่าในปีหน้าจะมีความชัดเจนและสามารถลงนามในสัญญาได้ ส่งผลให้บริษัทสามารถเติม Backlog ในมือได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีโครงการที่รอเปิดประกวดราคา เช่น โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 30,000 ล้านบาท, โครงการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 2 และทางขับ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา วงเงิน 16,000 ล้านบาท และ โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสาร (East Expansion) วงเงิน 10,000 ล้านบาท โครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย ช่วงจตุโชติ - ลำลูกกา วงเงิน 19,000 ล้านบาท และ โครงการทางพิเศษระหว่างเมือง ช่วงบางขุนเทียน - บางบัวทอง (M9) วงเงิน 46,000 ล้านบาท เป็นต้น
CK แข็งแกร่ง บริษัทในกลุ่มหนุนส่วนแบ่งกำไรเด่น
นายณัฐวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ CK ยังได้รับส่วนแบ่งกำไรและเงินปันผลจากบริษัทในกลุ่ม อย่างบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ("BEM") บริษัท ซีเคพาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ("CKP") และบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) ("TTW") ที่ช่วยสนับสนุนผลประกอบการได้เป็นอย่างดี โดยในไตรมาสนี้ CK มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 595 ล้านบาท และยังได้รับเงินปันผลเข้ามาจาก TTW จำนวน 232 ล้านบาทอีกด้วย
รับรางวัลการประเมิน CG และ ESG
นอกจากนี้ CK ยังได้รับรางวัลการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ ระดับดีเลิศ (Excellent CG Scoring) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัท (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ติดต่อกันอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 อีกทั้งยังได้รับการประเมิน ESG Rating ในระดับ A จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำปี 2566 ผลการประเมินนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการดำเนินงานของ CK ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง