กฎกระทรวง
ฉบับที่ 15 (พ.ศ.2543)
ออกตามความในพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
พ.ศ.2535
______________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 และมาตรา 90 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิก
(1) กฎกระทรวง ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
(2) กฎกระทรวง ฉบับที่ 14 (พ.ศ.2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
ข้อ 2 ผู้ที่จะขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลตามกฎกระทรวงนี้ได้ต้องเป็น
(1) ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์
(2) บริษัทเงินทุนตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
(3) บริษัทหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(4) บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต
(5) สถาบันการเงินที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา หรือ
(6) บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลตามกฎกระทรวงนี้ ซึ่งมีนิติบุคคลตาม (1) ถึง (5) รายหนึ่งรายใด ถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
ข้อ 3 ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลเป็นนิติบุคคลตามข้อ 2 (1) ถึง (5) เว้นแต่สาขาของธาคารพาณิชย์ต่างประเทศหรือบริษัทประกันชีวิตต่างประเทศ ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์หรือธุรกิจประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต แล้วแต่กรณี ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) สามารถดำเนินกองทุนและกันเงินสำรองได้ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่ควบคุมการประกอบธุรกิจของนิติบุคคลนั้น
(2) ไม่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีฐานะทางการเงินที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือพฤติการณ์อื่นที่แสดงให้เห็นว่าอยู่ในระหว่างประสบปัญหาทางการเงิน
(3) ภายในระยะเวลาสามปีย้อนหลังก่อนปีที่ยื่นคำขอจนถึงวันที่ได้รับใบอนุญาตต้องไม่มีประวัติการกระทำความผิดตามกฎหมายที่ควบคุมการประกอบธุรกิจของนิติบุคคลนั้น หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับธุรกิจทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายของประเทศไทยหรือกฎหมายต่างประเทศ ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์หรือการประกอบธุรกิจที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง ฉ้อฉลหรือทุจริต
(4) ภายในระยะเวลาสามปีย้อนหลังก่อนปีที่ยื่นคำจนถึงวันที่ได้รับใบอนุญาตต้องไม่มีประวัติการดำเนินกิจการใดที่มีลักษณะอันเป็นการหลอกลวงหรือไม่ซื่อสัตย์สุจริตหรือแสดงถึงการขาดความรับผิดชอบ ไม่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของลูกค้าหรือขาดความรอบคอบ หรือสะท้อนถึงวิธีการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่น่าเชื่อถือ
(5) แสดงได้ว่าจะมีระบบงานที่มีความพร้อมในการประกอบธุรกิจการจัดการกองทุนส่วนบุคคล
(6) แสดงได้ว่าจะมีความพร้อมด้านบุคลากรของหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรับผิดชอบงานด้านการจัดการกองทุนส่วนบุคคล
กรรมการ ผู้จัดการ และบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดการกองทุนส่วนบุคคลของนิติบุคคลตามวรรคหนึ่ง ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดใน (3) และ (4)
ในกรณีที่สาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศหรือบริษัทประกันชีวิตต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์หรือธุรกิจประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต แล้วแต่กรณี เป็นผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคล สาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศหรือบริษัทประกันชีวิตต่างประเทศดังกล่าวต้องมีคุณสมบัติตามวรรคหนึ่ง
ผู้จัดการสาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศหรือบริษัทประกันชีวิตต่างประเทศตามวรรคสามต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับบุคคลตามวรรคสอง
ข้อ 4 บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคล ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) มีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วไม่น้อยกว่าทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วของบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนดตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(2) มีคุณสมบัติตามข้อ 3 (5) และ (6)
(3) ต้องแสดงได้ว่าจะมีเงินกองทุนหมุนเวียนที่เพียงพอต่อประมาณการจ่ายในการประกอบธุรกิจตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด
(4) ผู้ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละสิบของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 3 (2) (3) และ (4)
ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นตาม (4) เป็นนิติบุคคลตามข้อ 2 (1) ถึง (5) นิติบุคคลนั้นต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 3 (1) และกรรมการ และผู้จัดการของนิติบุคคลดังกล่าวต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 3 (3) และ (4)
ข้อ 5 ให้ผู้ที่ประสงค์จะขอรับความเห็นชอบในการจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ขึ้นใหม่เพื่อประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคล ยื่นคำขอต่อสำนักงานภายในระยะเวลา และตามแบบที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
การยื่นคำขอรับความเห็นชอบตามวรรคหนึ่ง ให้ยื่นพร้อมกับสำเนาคำขอสองชุด เอกสารหลักฐานประกอบคำขอตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา และสำเนาเอกสารหลักฐานดังกล่าวสองชุด
ข้อ 6 ในกรณีที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาเห็นว่าบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่มีคุณสมบัติถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้ ให้คณะกรรมการ ก.ล.ต.เสนอแนะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในการจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดดังกล่าวภายในหกสิบวันนักแต่วันที่สำนักงานได้รับคำขอและเอกสารหลักฐานครบถ้วน
ให้รัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดตั้งบริษัทตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต.
ข้อ 7 เมื่อรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบตามข้อ 6 แล้ว ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบดำเนินการจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดขึ้นใหม่เพื่อประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลตามที่ได้รับความเห็นชอบ และให้บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ยื่นคำขอรับใบอนุญาติประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลต่อสำนักงานภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบตามแบบที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
การยื่นคำขอตามวรรคหนึ่ง ให้ยื่นพร้อมกับสำเนาคำขอสองชุด เอกสารหลักฐานประกอบคำขอตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา และสำเนาเอกสารหลักฐานดังกล่าวสองชุด
ข้อ 8 ในกรณีที่นิติบุคคลตามข้อ 2 (1) ถึง (5) ประสงค์จะขอรับใบอนุญาติประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคล ให้นิติบุคคลดังกล่าวยื่นคำขอต่อสำนักงานภายในระยะเวลาและตามแบบที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
การยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้ยื่นพร้อมกับสำเนาคำขอสองชุด เอกสารหลักฐานประกอบคำขอตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา และสำเนาเอกสารหลักฐานดังกล่าวสองชุด
ข้อ 9 ในการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลตามกฎกระทรวงนี้ ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องยินยอมและอำนวยความสะดวกให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปในสถานที่ประกอบธุรกิจหรือสถานที่ตั้งของผู้ขอรับใบอนุญาต หรือสถานที่อื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับฐานะการเงิน การดำเนินงาน สินทรัพย์หรือข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของผู้ขอรับใบอนุญาต
ข้อ 10 ในกรณีที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาเห็นว่าผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามข้อ 7 หรือข้อ 8 เป็นผู้มีคุณสมบัติถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้ ให้คณะกรรมการ ก.ล.ต.เสนอแนะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาออกใบอนุญาตภายในหกสิบวันนับแต่วันที่สำนักงานได้รับคำขอและเอกสารหลักฐานครบถ้วน และให้รัฐมนตรีพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต.
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพยืประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลให้เป็นไปตามแบบที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ 11 ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลจะเริ่มประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ดังกล่าวได้ต่อเมื่อสำนักงานตรวจสอบแล้วเห็นว่าผู้ได้รับใบอนุญาตได้จัดให้มีระบบงาน บุคลากร และเงินกองทุนหมุนเวียนที่พร้อมจะประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลตามที่ได้แสดงไว้ในข้อ 3 หรือข้อ 4 แล้วแต่กรณี
ข้อ 12 ให้กำหนดค่าธรรมเนียมตามอัตรา ดังนี้
(1) คำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคล คำขอละ 10,000 บาท
(2) ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตปีละสองรอบ รอบละหกเดือนตามปีปฏิทิน โดยค่าธรรมเนียมที่ต้องต้องชำระในแต่ละรอบให้คิดในอัตราตั้งแต่ร้อยละ 0.0045 ถึง 0.025 ของค่าเฉลี่ยของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนส่วนบุคคลทุกกองทุนที่อยู่ภายใต้การจัดการของผู้ได้รับใบอนุญาตในรอบระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมนั้น แต่ทั้งนี้ต้องไม่ต่ำว่า 300,000 บาท และไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อปี
อัตราค่าธรรมเนียมตาม (2) จะกำหนดให้ใช้ในอัตรใด และสำหรับปีใด ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตสำหรับรอกหกเดือนที่หนึ่งให้ชำระภายในวันที่ 31 กรกฎาคมของทุกปี และรอบหกเดือนที่สองให้ชำระภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป เว้นแต่ในกรณีที่มีการเลิกประกอบธุรกิจหรือเพิกถอนใบอนุญาต ให้ชำระภายในสามสิบวันนับแต่วันที่รัฐมนตรีอนุญาตให้เลิกประกอบธุรกิจหรือวันที่รัฐมนตรีสั่งเพิกถอนใบอนุญาต
ถ้าผู้ได้รับใบอนุญาตไม่ชำระค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่กำหนด หรือชำระค่าธรรมเนียมไม่ครบถ้วน ต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกร้อยละสองต่อเดือนของค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระ เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน ทั้งนี้ จนกว่าจะได้ชำระค่าธรรมเนียมครบถ้วนแล้ว
ข้อ 13 ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติหลักทรัพยืและตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้เป็นตามกฎกระทรวงนี้
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่ผู้ได้รับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งชำระไว้เพื่อเป็นค่าธรรมเนียมใบอนุญาต สำหรับปีที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับหากมีจำนวนเกินกว่าค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่ต้องชำระตามกฎกระทรวงนี้ ให้ถือว่าค่าธรรมเนียมส่วนที่เกินนั้นเป็นค่าธรรมเนียมที่ชำระไว้ล่วงหน้าบางส่วนหรือทั้งหมดแล้วแต่กรณี
ให้ไว้ ณ วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2543
ธารินทร์ นิมมานเหมินท์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากได้มีการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยกำหนดให้การจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ภายใต้บังคับของบทบัญญัติว่าด้วยการจัดการกองทุนส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีผลทำให้ผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต้องเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคล ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าว สมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการในการขอรับใบอนุญาต การขอความเห็นชอบ การออกใบอนุญาต และการให้ความเห็นชอบในการจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดเพื่อประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการจัดการกองทุนส่วนบุคคล และสมควรปรับปรุงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลเสียใหม่ โดยคำนึงถึงปริมาณการประกอบธุรกิจของผู้ได้รับใบอนุญาติ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ได้รับใบอนุญาตมากขึ้นจึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้