พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑ ส่วนที่ ๑/๑ คณะกรรมการกำกับตลาดทุน

ข่าวการเมือง Tuesday March 4, 2008 11:50 —พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

"ส่วนที่ ๑/๑

คณะกรรมการกำกับตลาดทุน

___________________

มาตรา ๑๖/๑ ให้มีคณะกรรมการกำกับตลาดทุนคณะหนึ่ง ประกอบด้วยเลขาธิการ เป็นประธานกรรมการ รองเลขาธิการซึ่งเลขาธิการมอบหมายหนึ่งคน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังหรือรองผู้อำนวยการที่ได้รับมอบหมายหนึ่งคน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยผ่านการคัดเลือกตามที่กำหนดในมาตรา ๓๑/๗ อีกไม่เกินสี่คนเป็นกรรมการ ทั้งนี้ ผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อยสองคนต้องมีประสบการณ์ในการบริหารกิจการบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์
ให้เลขาธิการแต่งตั้งพนักงานของสำนักงานคนหนึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการกำกับตลาดทุน
มาตรา ๑๖/๒ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งต้องมีสัญชาติไทยและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙ และต้องไม่ดำรงตำแหน่งกรรมการ ผู้จัดการ บุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ พนักงาน ลูกจ้าง ที่ปรึกษา หรือตำแหน่งอื่นใดในธุรกิจหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ องค์กรที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สำนักหักบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สมาคมกำกับผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือบริษัทอื่นใดซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการ ก.ล.ต. คณะกรรมการกำกับตลาดทุน หรือสำนักงาน
ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิผู้ใดที่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา ๙ (๕) หรือตามวรรคหนึ่ง ต้องลาออกจากการเป็นบุคคลตามมาตรา ๙ (๕) หรือตามวรรคหนึ่ง แล้วแต่กรณี ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง แต่ถ้าผู้นั้นมิได้ลาออกภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและให้ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่แทน
มาตรา ๑๖/๓ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งตามมาตรา ๑๖/๑ มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และเมื่อพ้นจากตำแหน่งแล้วอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระมิได้ โดยในวาระเริ่มแรกเมื่อครบสองปี ให้กรรมการออกจากตำแหน่งเป็นจำนวนกึ่งหนึ่งโดยวิธีจับสลาก และให้ถือว่าการออกจากตำแหน่งโดยการจับสลากเป็นการออก ตามวาระ
เมื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้ประธานกรรมการ ก.ล.ต. และเลขาธิการร่วมกันเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิต่อคณะกรรมการคัดเลือกภายในหกสิบวันเพื่อดำเนินการตามที่กำหนดในมาตรา ๓๑/๗ ทั้งนี้ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งอยู่ในตำแหน่ง
เพื่อดำเนินงานต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
ให้นำความในมาตรา ๑๒ และมาตรา ๑๓ มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน โดยอนุโลม
มาตรา ๑๖/๔ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๑๖/๑ พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) มีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
(๔) รัฐมนตรีมีคำสั่งให้ออกโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่มีมติให้ออกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมด ทั้งนี้ คำสั่งให้ออกดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลอย่างชัดแจ้ง
(๕) เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๖/๒
ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ รัฐมนตรีอาจแต่งตั้งผู้อื่นเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทน และให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระ ที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ตนแทน
มาตรา ๑๖/๕ ให้กรรมการกำกับตลาดทุนจัดทำรายงานการถือหลักทรัพย์ของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ยื่นต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตามหลักเกณฑ์ และระยะเวลาที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด
มาตรา ๑๖/๖ ให้คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติการเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้และกฎหมายอื่น โดยต้องรับผิดชอบต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต.
อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับตลาดทุนตามวรรคหนึ่ง ให้รวมถึง

(๑) ออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือข้อกำหนดในเรื่องการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ การออกและเสนอขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ สำนักหักบัญชี นายทะเบียนหลักทรัพย์ สมาคมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักทรัพย์ และการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ

(๒) รายงานผลการดำเนินงานเป็นระยะต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด

(๓) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๑๖/๗ ให้คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมอบหมายได้

ให้นำความในมาตรา ๑๒ มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะอนุกรรมการ โดยอนุโลม

มาตรา ๑๖/๘ ให้กรรมการกำกับตลาดทุนและอนุกรรมการได้รับประโยชน์ตอบแทนตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด และให้ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสำนักงาน"

มาตรา ๑๑ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

"มาตรา ๑๙ ให้สำนักงานมีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้

(๑) ปฏิบัติการเพื่อให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการ ก.ล.ต.

(๒) กำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามและดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับบุคคลที่กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้

(๓) กำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ การยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ

(๔) รับค่าธรรมเนียม

(๕) ปฏิบัติงานอื่นตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น"

มาตรา ๑๒ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา ๒๐ ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเลขาธิการโดยคำแนะนำของรัฐมนตรีตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. และให้เลขาธิการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระมิได้" มาตรา ๑๓ ให้ยกเลิกความใน (๕) ของมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "(๕) คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรี ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพราะบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถโดยมติดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลในการให้ออกอย่างชัดแจ้ง" มาตรา ๑๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๒๒/๑ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ "มาตรา ๒๒/๑ ภายในสองปีนับแต่วันพ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการจะประกอบธุรกิจหรือทำงานให้แก่ผู้ประกอบการ องค์กร หรือบริษัท หรือดำรงตำแหน่งที่กำหนดไว้ตามมาตรา ๑๖/๒ วรรคหนึ่ง มิได้ ในการพิจารณากำหนดเงินเดือนและเงินอื่นใดของเลขาธิการ ให้คำนึงถึงข้อห้ามมิให้ประกอบอาชีพตามวรรคหนึ่งด้วย" มาตรา ๑๕ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๒๔/๑ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ "มาตรา ๒๔/๑ เพื่อรักษาประโยชน์ของประชาชนหรือเพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน ให้สำนักงานหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากสำนักงานมีอำนาจเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ บริษัทที่ออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์ ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ องค์กรที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักทรัพย์ การกระทำความผิดและการลงโทษบุคคลที่กระทำความผิด หรือข้อมูลอื่นใดที่ได้รับเนื่องจากการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้" มาตรา ๑๖ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา ๒๘ การพ้นจากตำแหน่งของพนักงานของสำนักงาน รวมทั้งการพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากเกษียณอายุให้เป็นไปตามข้อบังคับที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด

ในกรณีที่มีเหตุผลสมควรเมื่อคำนึงถึงตำแหน่งหรือลักษณะงานใดที่พนักงานรับผิดชอบก่อนพ้นตำแหน่งหรือหน้าที่ในสำนักงาน ให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีอำนาจออกข้อบังคับกำหนดให้นำความในมาตรา ๒๒/๑ มาใช้บังคับกับพนักงานนั้นโดยอนุโลม"

มาตรา ๑๗ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๒๙/๑ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕

"มาตรา ๒๙/๑ ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ประธานกรรมการ ก.ล.ต.กรรมการ ก.ล.ต. กรรมการกำกับตลาดทุน และเลขาธิการ เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา"

มาตรา ๑๘ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๓๑/๑ และมาตรา ๓๑/๒ ในส่วนที่ ๒ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ของหมวด ๑ การกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕

"มาตรา ๓๑/๑ ให้สำนักงานจัดทำรายงานประจำปีซึ่งแสดงถึงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานเสนอรัฐมนตรี ภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับจากวันสิ้นปีบัญชี

มาตรา ๓๑/๒ ให้สำนักงานจัดทำแผนการดำเนินงานของสำนักงานและทำคำชี้แจงเกี่ยวกับแผนงานที่สำคัญที่จะดำเนินการโดยจัดทำเป็นแผนสามปีเสนอรัฐมนตรี"

มาตรา ๑๙ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นส่วนที่ ๓ คณะกรรมการคัดเลือก มาตรา ๓๑/๓ มาตรา ๓๑/๔ มาตรา ๓๑/๕ มาตรา ๓๑/๖ และมาตรา ๓๑/๗ ของหมวด ๑ การกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ