พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 369) พ.ศ.2543

ข่าวกฏหมายและประกาศ Sunday October 29, 2000 08:50 —ประมวลรัษฎากร

                                                พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 369)
พ.ศ.2543
_________________________
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2543
เป็นปีที่ 55 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์บางกรณี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้
ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 369)
พ.ศ.2543"
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามหมวด 4 ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด 5 และอากรแสตมป์ตามหมวด 6 ในลักษณะ 2 แห่งประมวล
รัษฎากร ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำหรับการขายทรัพย์สิน รายรับ และการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการดำเนินการระหว่าง
การไฟ้ฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกับบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด ตามแผนระดมทุนจากภาคเอกชนในโครงการโรงไฟฟ้าราชบุรีตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2542
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลีกภัย
นายกรัฐมนตรี
__________________________________________
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะแปรรูปกิจการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ
ไทยบางส่วน ตามแผนแม่บทการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อให้เอกชนเข้ามามีบทบาทในกิจการของรัฐเพิ่มมากขึ้น อันจะเป็นการเพิ่มการแข่งขันในกิจการ
ผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ อีกทั้งเป็นการลดภาระในการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2542
เห็นชอบแผนระดมทุนจากภาคเอกชนในโครงการโรงไฟฟ้าราชบุรี แต่โดยที่การดำเนินการตามโครงการดังกล่าวจะต้องมีการขายทรัพย์สินให้แก่บริษัท
ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด ที่จะจัดตั้งขึ้น จึงทำให้เกิดภาระภาษีขึ้นแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในฐานะเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าราชบุรี แต่
โดยที่การดำเนินการตามโครงการดังกล่าวจะต้องมีการขายทรัพย์สินให้แก่บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด ที่จะจัดตั้งขึ้น จึงทำให้เกิดภาระภาษีขึ้นแก่การ
ไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในฐานะเจ้าของโครงการ ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว สมควรยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำหรับการขายทรัพย์สินรายรับที่ได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ และการ
กระทำตราสารอันเนื่องมาจากการดำเนินการตามแผนระดมทุนจากภาคเอกชนในโครงการโรงไฟฟ้าราชบุรี จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ