พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 388)
พ.ศ.2544
_____________________________
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ.2544
เป็นปีที่ 56 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะบางกรณี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3(1)
แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10)
พ.ศ.2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการ
ยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 388) พ.ศ.2544"
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด 5 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากรสำหรับการประกอบ
กิจการกิจการธนาคารตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์หรือกฎหมายเฉพาะ การประกอบกิจการธุรกิจเงินทุน
ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และ
ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ และการประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ทั้งนี้ สำหรับรายรับเฉพาะที่เป็นกำไร
ก่อนหักรายจ่ายใด ๆ จากการซื้อหรือขายตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ ในแต่ละเดือนภาษี เป็นจำนวน
เท่ากับผลขาดทุนจากการซื้อหรือขายตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ ในเดือนภาษีนั้น โดยให้มีสิทธิได้รับ
ยกเว้นนับแต่เดือนภาษีถัดจากเดือนที่พระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับเป็นต้นไป
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ: หมายเหตุในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่ในปัจจุบันการประกอบกิจการธนาคารตาม
กฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์หรือกฎหมายเฉพาะ การประกอบกิจการธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจ
เครดิตฟองซิเอร์ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์และการ
ประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด 5 ในลักษณะ 2 จากรายรับ ในส่วน
ที่เป็นกำไรจากการซื้อหรือขายตั๋วเงินและตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคล
อื่นเป็นผู้ออก ดังนั้น เพื่อให้การฟื้นฟูและพัฒนาตลาดทุนและส่งเสริมการซื้อหรือขายตราสารดังกล่าวเป็นไปอย่างมี
ประสิทธิภาพ สมควรยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับรายรับเฉพาะที่เป็นกำไรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ จากการซื้อหรือขาย
ตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ ในแต่ละเดือนภาษี เป็นจำนวนเท่ากับผลขาดทุนจากการซื้อหรือขายตั๋วเงิน
หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ ในเดือนภาษีนั้น บางกรณี ให้แก่ผู้ประกอบกิจการดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตรา
พระราชกฤษฎีกานี้