กฎกระทรวง ฉบับที่ 231 (พ.ศ.2544) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร

ข่าวกฏหมายและประกาศ Thursday September 13, 2001 08:30 —ประมวลรัษฎากร

                                                กฎกระทรวง
ฉบับที่ 231 (พ.ศ.2544)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
___________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร
(ฉบับที่ 20) พ.ศ.2513 และมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร
(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (ค) ของข้อ 2 (30) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ.2509) ออกตามความในประมวล
รัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 223 (พ.ศ.2542) ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
"(ค) ดอกเบี้ยที่ได้จากตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออก
เฉพาะส่วนที่เกิดขึ้นก่อนการเป็นผู้ทรงตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ของผู้มีเงินได้ ทั้งนี้ ต้องมีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา
50 (2) แห่งประมวลรัษฎากรจากดอกเบี้ยดังกล่าวทั้งจำนวนไว้แล้ว"
ข้อ 2 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ให้ไว้ ณ วันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2544
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
หมายเหตุ: เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่ผู้ทรงสิทธิในตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ ที่บริษัทหรือ
ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออก จะเป็นผู้รับดอกเบี้ยจากตราสารดังกล่าวทั้งจำนวนและดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นเงินได้พึง
ประเมินประเภทหนึ่งที่ต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 (2) แห่งประมวลรัษฎากร แต่ดอกเบี้ยที่ได้รับทั้งจำนวนนั้น
อาจรวมผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีอีกประเภทหนึ่งไว้ด้วย
เพื่อมิให้เกิดการเสียภาษีซ้ำซ้อนกันและความไม่เป็นธรรมแก่ผู้ทรงตั๋งเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ซึ่งเป็นผู้ได้รับดอกเบี้ยจริงเพียง
บางส่วนแต่ต้องเสียภาษีสำหรับดอกเบี้ยดังกล่าวทั้งจำนวน สมควรกำหนดให้ดอกเบี้ยเฉพาะส่วนที่เกิดขึ้นก่อนการเป็นผู้ทรงตั๋วเงินหรือ
ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ของผู้มีเงินได้ เป็นเงินได้พึงประเมินที่ไม่ต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ