พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 438)
พ.ศ. 2548
--------------------------
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2548
เป็นปีที่ 60 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับ มาตรา 35 และมาตรา 48 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 438) พ.ศ.2548"
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากรสำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เฉพาะเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษดังนี้
(1) จำนวนไม่เกินเดือนละหนึ่งพันบาท ในกรณีที่ลูกจ้างได้รับเงินเดือนเจ็ดพันบาทขึ้นไปแต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แต่เมื่อรวมเงินเดือนและเงินเพิ่มค่าครองชีพแล้วต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท
(2) ตามจำนวนเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษที่ได้จ่ายให้แก่ลูกจ้างซึ่งได้รับเงินเดือนไม่เกินเจ็ดพันบาทแต่เมื่อรวมเงินเดือนและเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษแล้วต้องไม่เกินเดือนละเจ็ดพันบาท
เงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษตามวรรคหนึ่ง ต้องเป็นเงินที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจ่ายให้แก่ลูกจ้างของตนติดต่อกันทุกเดือนนอกเหนือจากเงินเดือนและเงินได้อื่น อันเนื่องมาจากการจ้างแรงงานที่ลูกจ้างได้รับเป็นประจำทุกเดือนก่อนเดือนสิงหาคม พ.ศ.2548 ทั้งนี้ ในเดือนที่มีการจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพให้แก่ลูกจ้าง เงินเดือนของลูกจ้างต้องไม่ต่ำกว่าเงินเดือนในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2548 ในกรณีที่ลูกจ้างนั้นเข้าทำงานก่อนเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 หรือไม่ต่ำกว่าเงินเดือนในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 หรือเงินเดือนเดือนแรกที่เข้าทำงาน ในกรณีที่ลูกจ้างนั้นเข้าทำงานในหรือภายหลังเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 แล้วแต่กรณี
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
ในมาตรานี้ "เงินเดือน" หมายความว่า เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงานที่ทำเป็นหนังสือ ซึ่งคำนวณเป็นจำนวนเงินต่อเดือนไม่ว่าจะมีระยะเวลาการจ่ายเงินในแต่ละเดือนเป็นประการใดก็ตาม
มาตรา 4 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับกับเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจ่ายให้แก่ลูกจ้างของตนระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2548 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องเริ่มต้นจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2548
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลช่วยเหลือเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษให้แก่ลูกจ้างที่มีรายได้น้อย ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล สมควรยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 438)
พ.ศ. 2548
--------------------------
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2548
เป็นปีที่ 60 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับ มาตรา 35 และมาตรา 48 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 438) พ.ศ.2548"
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากรสำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เฉพาะเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษดังนี้
(1) จำนวนไม่เกินเดือนละหนึ่งพันบาท ในกรณีที่ลูกจ้างได้รับเงินเดือนเจ็ดพันบาทขึ้นไปแต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แต่เมื่อรวมเงินเดือนและเงินเพิ่มค่าครองชีพแล้วต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท
(2) ตามจำนวนเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษที่ได้จ่ายให้แก่ลูกจ้างซึ่งได้รับเงินเดือนไม่เกินเจ็ดพันบาทแต่เมื่อรวมเงินเดือนและเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษแล้วต้องไม่เกินเดือนละเจ็ดพันบาท
เงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษตามวรรคหนึ่ง ต้องเป็นเงินที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจ่ายให้แก่ลูกจ้างของตนติดต่อกันทุกเดือนนอกเหนือจากเงินเดือนและเงินได้อื่น อันเนื่องมาจากการจ้างแรงงานที่ลูกจ้างได้รับเป็นประจำทุกเดือนก่อนเดือนสิงหาคม พ.ศ.2548 ทั้งนี้ ในเดือนที่มีการจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพให้แก่ลูกจ้าง เงินเดือนของลูกจ้างต้องไม่ต่ำกว่าเงินเดือนในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2548 ในกรณีที่ลูกจ้างนั้นเข้าทำงานก่อนเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 หรือไม่ต่ำกว่าเงินเดือนในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 หรือเงินเดือนเดือนแรกที่เข้าทำงาน ในกรณีที่ลูกจ้างนั้นเข้าทำงานในหรือภายหลังเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 แล้วแต่กรณี
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
ในมาตรานี้ "เงินเดือน" หมายความว่า เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงานที่ทำเป็นหนังสือ ซึ่งคำนวณเป็นจำนวนเงินต่อเดือนไม่ว่าจะมีระยะเวลาการจ่ายเงินในแต่ละเดือนเป็นประการใดก็ตาม
มาตรา 4 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับกับเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจ่ายให้แก่ลูกจ้างของตนระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2548 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องเริ่มต้นจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2548
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลช่วยเหลือเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษให้แก่ลูกจ้างที่มีรายได้น้อย ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล สมควรยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้