กฎกระทรวง
ฉบับที่ 259 (พ.ศ.2549)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
-------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 20) พ.ศ.2513 และมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 35 และมาตรา 48 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ดังต่อไปนี้
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (74) ของข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ.2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
“(74) เงินได้ที่คณะกรรมการโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยได้รับเพื่อประโยชน์ของโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 กุมพาพันธ์ พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป”
ให้ไว้ ณ วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2549
ทนง พิทยะ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากเงินได้พึงประเมินของคณะกรรมการโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่โดยที่โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนพระภิกษุและสามเณรให้มีโอกาสศึกษาพระพุทธศาสนาขั้นสูงจากสถาบันพระพุทธศาสนาในประเทศ ดังนั้น เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานของคณะกรรมการโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยตามโครงการดังกล่าว สมควรกำหนดให้เงินได้พึงประเมินที่คณะกรรมการได้รับเพื่อประโยชน์ของโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
ฉบับที่ 259 (พ.ศ.2549)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
-------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 20) พ.ศ.2513 และมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 35 และมาตรา 48 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ดังต่อไปนี้
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (74) ของข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ.2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
“(74) เงินได้ที่คณะกรรมการโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยได้รับเพื่อประโยชน์ของโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 กุมพาพันธ์ พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป”
ให้ไว้ ณ วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2549
ทนง พิทยะ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากเงินได้พึงประเมินของคณะกรรมการโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่โดยที่โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนพระภิกษุและสามเณรให้มีโอกาสศึกษาพระพุทธศาสนาขั้นสูงจากสถาบันพระพุทธศาสนาในประเทศ ดังนั้น เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานของคณะกรรมการโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยตามโครงการดังกล่าว สมควรกำหนดให้เงินได้พึงประเมินที่คณะกรรมการได้รับเพื่อประโยชน์ของโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้