หมวด 13
การเลิกบริษัท
มาตรา 154 เมื่อมีเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ดำเนินการเลิกบริษัท
(1) เมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้เลิกคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
(2) เมื่อบริษัทล้มละลาย
(3) เมื่อศาลมีคำสั่งให้เลิกบริษัทตามมาตรา 155 และคำสั่งนั้นถึงที่สุดแล้ว
มาตรา 155ผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดจะร้องของให้ศาลสั่งเลิกบริษัทก็ได้ เมื่อมีเหตุใด เหตุหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติเกี่ยวกับการประชุมจัดตั้งบริษัทหรือการจัดทำรายงานการจัดตั้งบริษัท หรือคณะกรรมการบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติเกี่ยวกับการชำระเงินค่าหุ้น การโอน กรรมสิทธิ์ทรัพย์สินหรือทำเอกสารหลักฐานการใช้สิทธิต่าง ๆ ให้แก่บริษัทเพื่อ การชำระค่าหุ้น การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือการจดทะเบียนบริษัท
(2) ถ้าจำนวนผู้ถือหุ้นลดน้อยลงจนเหลือไม่ถึงสิบห้าคน
(3) กิจการของบริษัทหากทำไปจะมีแต่ขาดทุนและไม่มีหวังจะกลับฟื้นตัวได้อีก
เมื่อมีการร้องขอให้ศาลสั่งในกรณีตาม (1) หรือ (2) ศาลจะสั่งให้บริษัทแก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในเวลาที่กำหนด แต่ไม่เกินหกเดือนแทนการสั่งเลิกบริษัทก็ได้
มาตรา 156 ในการเลิกหรือสั่งเลิกบริษัทที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือศาล แล้วแต่กรณีต้องแต่ตั้งและกำหนดค่าตอบแทนผู้ชำระบัญชีและผู้สอบบัญชีใน คราวเดียวกันด้วย
มาตรา 157 เมื่อมีการเลิกบริษัทให้คณะกรรมการส่งมอบทรัพย์สิน บัญชี และเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ทั้งหมดของบริษัทให้แก่ผู้ชำระบัญชีภายในเจ็ดวันนับแต่วันเลิก
มาตรา 158 การเลิกบริษัทให้มีผลนับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียน เลิกบริษัท แต่ถ้าการชำระบัญชียังไม่เสร็จให้ถือว่าบริษัทยังดำรงอยู่เท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี
--ราชกิจจานุเบกษา--
การเลิกบริษัท
มาตรา 154 เมื่อมีเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ดำเนินการเลิกบริษัท
(1) เมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้เลิกคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
(2) เมื่อบริษัทล้มละลาย
(3) เมื่อศาลมีคำสั่งให้เลิกบริษัทตามมาตรา 155 และคำสั่งนั้นถึงที่สุดแล้ว
มาตรา 155ผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดจะร้องของให้ศาลสั่งเลิกบริษัทก็ได้ เมื่อมีเหตุใด เหตุหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติเกี่ยวกับการประชุมจัดตั้งบริษัทหรือการจัดทำรายงานการจัดตั้งบริษัท หรือคณะกรรมการบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติเกี่ยวกับการชำระเงินค่าหุ้น การโอน กรรมสิทธิ์ทรัพย์สินหรือทำเอกสารหลักฐานการใช้สิทธิต่าง ๆ ให้แก่บริษัทเพื่อ การชำระค่าหุ้น การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือการจดทะเบียนบริษัท
(2) ถ้าจำนวนผู้ถือหุ้นลดน้อยลงจนเหลือไม่ถึงสิบห้าคน
(3) กิจการของบริษัทหากทำไปจะมีแต่ขาดทุนและไม่มีหวังจะกลับฟื้นตัวได้อีก
เมื่อมีการร้องขอให้ศาลสั่งในกรณีตาม (1) หรือ (2) ศาลจะสั่งให้บริษัทแก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในเวลาที่กำหนด แต่ไม่เกินหกเดือนแทนการสั่งเลิกบริษัทก็ได้
มาตรา 156 ในการเลิกหรือสั่งเลิกบริษัทที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือศาล แล้วแต่กรณีต้องแต่ตั้งและกำหนดค่าตอบแทนผู้ชำระบัญชีและผู้สอบบัญชีใน คราวเดียวกันด้วย
มาตรา 157 เมื่อมีการเลิกบริษัทให้คณะกรรมการส่งมอบทรัพย์สิน บัญชี และเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ทั้งหมดของบริษัทให้แก่ผู้ชำระบัญชีภายในเจ็ดวันนับแต่วันเลิก
มาตรา 158 การเลิกบริษัทให้มีผลนับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียน เลิกบริษัท แต่ถ้าการชำระบัญชียังไม่เสร็จให้ถือว่าบริษัทยังดำรงอยู่เท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี
--ราชกิจจานุเบกษา--