หมวด 5
การขายทอดตลาดทรัพย์สิน
ข้อ 43 เมื่อได้ทำการยึดทรัพย์สินหรือได้รับมอบทรัพย์สินตามคำสั่งอายัดแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่นำเสนอเลขาธิการเพื่อพิจารณาออกคำสั่งให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้น เว้นแต่กรณีตามข้อ 36
เมื่อเลขาธิการมีคำสั่งให้ขายทอดตลาดแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการขายทอดตลาดได้จนกว่าจะเสร็จสิ้น โดยมิต้องดำเนินการตามวรรคหนึ่งอีก
ข้อ 44 เมื่อเลขาธิการมีคำสั่งให้ขายทอดตลาดแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำประกาศขายทอดตลาดแล้วให้ดำเนินการดังนี้
(1) จัดส่งประกาศแก่นายจ้าง ลูกหนี้แห่งสิทธิเรียกร้องในกรณีที่มีการอายัดสิทธิเรียกร้องนั้น และผู้ซื้อตามข้อ 66 ตลอดจนบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับเอาแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาด ซึ่งทราบได้ตามทะเบียนหรือโดยประการอื่นตามที่เห็นสมควร โดยให้นำวิธีการส่งคำสั่งในข้อ 11 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
(2) ปิดประกาศไว้โดยเปิดเผย ณ สถานที่ที่จะขาย สถานที่ที่ทรัพย์ตั้งอยู่ ที่ชุมนุมชนหรือสำนักงานแล้วแต่กรณี และสถานที่ราชการอื่นอันสมควรจะปิดไว้ก่อนวันขายไม่น้อยกว่าห้าวันและอาจโฆษณาในหนังสือพิมพ์และหรือทางวิทยุกระจายเสียงก่อนวันขายด้วยก็ได้
ข้อ 45 ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินให้แสดงรายละเอียดดังนี้
(1) วันเวลา สถานที่ที่จะขาย และรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สิน
(2) ข้อสัญญา คำเตือน เงื่อนไขและเงื่อนเวลาการชำระเงิน
(3) ข้อสัญญาผูกพันอันเป็นคุณแก่ทรัพย์สินนั้น หรือค่าภาระติดพันอันเกี่ยวค้างอยู่หรือเป็นทรัพย์สินที่มีดอกผลเกิดในระหว่างการยึดหรืออายัด
(4) ชื่อผู้รับจำนอง ต้นเงินและดอกเบี้ยที่ค้างชำระ และข้อความให้ผู้ซื้อต้องรับจำนองติดไปด้วยในกรณีที่ขายทรัพย์สินอย่างการจำนองติดไป
ข้อ 46 การกำหนดวันขายทอดตลาดทรัพย์สิน ให้นับตั้งแต่วันที่ลงในประกาศขายทอดตลาด โดยถือเกณฑ์ดังนี้
(1) ที่ดินไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือน และไม่เกินสองเดือน
(2) เรือน โรง สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ และทรัพย์สินรายใหญ่ไม่น้อยกว่ายี่สิบวันและไม่เกินหนึ่งเดือน
(3) ทรัพย์สินอื่น ๆ ไม่น้อยกว่าห้าวันและไม่เกินยี่สิบวัน
ข้อ 47 ให้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ณ ที่ตั้งหน่วยงานของสำนักงานหรือสถานที่ที่ทรัพย์สินตั้งอยู่
ในกรณีที่จะทำการขาย ณ สถานที่อื่นนอกจากที่กำหนดในวรรคหนึ่ง ต้องได้รับความเห็นชอบจากเลขาธิการ
ข้อ 48 การขายทอดตลาดสุรามีจำนวนน้ำสุราตั้งแต่สิบลิตรขึ้นไป ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งขอความร่วมมือไปยังกรมสรรพสามิต สรรพสามิตจังหวัด หรือสรรพสามิตอำเภอ แล้วแต่กรณีล่วงหน้าก่อนวันขายพอสมควรเพื่อขอให้จัดเจ้าพนักงานสรรพสามิตมากำกับออกใบขนสุราให้แก่ผู้ซื้อด้วย
ข้อ 49 การขายทอดตลาดโบราณวัตถุ เช่น พระพุทธรูป หนังสือฉบับเขียนโบราณ เป็นต้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนาประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นไปยังเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติด้วย
ข้อ 50 การขายทอดตลาดตู้นิรภัย หีบ หรือกำปั่นเก็บทรัพย์สิน ถ้าปรากฏว่ายังเปิดไม่ได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการขายจัดการเปิดเสียก่อนจึงจะขายทอดตลาดได้
ข้อ 51 การขายทอดตลาดทรัพย์สินที่มีการจำนองติด ให้ขายโดยวิธีการตามที่เลขาธิการสั่งกำหนด
ถ้าเลขาธิการมิได้กำหนดอย่างใด ให้ขายอย่างบังคับจำนองหรือจำนองติดไป หรือตั้งราคาขั้นต่ำโดยความยินยอมของคู่กรณีทุกฝ่าย แล้วแต่พนักงานเจ้าหน้าที่จะเห็นสมควร
ในการขายทรัพย์สินที่มีการจำนำติด ให้ปฏิบัติอย่างวิธีการขายทรัพย์สินที่มีการจำนองติดโดยอนุโลม
ข้อ 52 การขายทรัพย์สินอย่างบังคับจำนอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการขายอย่างการขายทรัพย์สินธรรมดา โดยไม่คำนึงถึงการจำนอง
ข้อ 53 การขายทรัพย์สินอย่างการจำนองติดไป ให้ประกาศแสดงชื่อผู้รับจำนองพร้อมทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยที่ยังค้างชำระจนถึงวันขาย และ ข้อความว่าผู้ใดซื้อทรัพย์สินนั้นต้องรับภาระจำนองติดไปด้วยโดยชัดเจน
ข้อ 54 การขายทรัพย์สินจำนองโดยวิธีตั้งราคาขั้นต่ำ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดราคาขั้นต่ำที่จะขายลงไว้ในประกาศ โดยคำนวณต้นเงินและดอกเบี้ยจำนองซึ่งยังค้างชำระแก่ผู้รับจำนองจนถึงวันขายกับค่าใช้จ่ายในการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินรายนั้น
ข้อ 55 ในการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สิน ให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่น้อยกว่าสามคนร่วมกันในการประเมินราคาและดำเนินการขาย
ข้อ 56 ให้ดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินโดยเปิดเผย
ข้อ 57 ก่อนเริ่มต้นขายทอดตลาด ให้ปักธงเครื่องหมายขายทอดตลาดตาหมากรุก ณ สถานที่ขายทรัพย์สิน และอ่านประกาศโฆษณาการขาย ณ ที่นั้นโดยเปิดเผย
ข้อ 58 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายแจ้งให้บรรดาผู้เข้าสู้ราคา ซึ่งมิได้เข้าสู้ราคาในนามของตนเองแต่กระทำการแทนบุคคลอื่น แสดงใบมอบอำนาจก่อนเข้าสู้ราคา มิฉะนั้นให้ถือว่าผู้เข้าสู้ราคาได้กระทำในนามของตนเอง และหากเป็นกรณีที่ต้องมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ผู้เข้าสู้ราคาซึ่งประมูลได้จะขอให้เปลี่ยนใส่ชื่อบุคคลอื่นเป็นผู้ซื้อโดยอ้างว่าตนเป็นเพียงตัวแทนมิได้
ข้อ 59 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดการให้ผู้เข้าสู้ราคาทุกคนจดแจ้งชื่อ ที่อยู่พร้อมทั้งลงลายมือชื่อแสดงความประสงค์เข้าสู้ราคาก่อนขายทรัพย์สินแต่ละรายการ
ข้อ 60 ในการขายทอดตลาด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายถือปฎิบัติดังนี้
(1) การขายทอดตลาดทรัพย์สินที่มีหลายสิ่งด้วยกัน ให้แยกขายทีละสิ่งต่อเนื่องกันไปแต่
ก. พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายมีอำนาจจัดสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีราคาเล็กน้อยรวมขายเป็นกอง ๆ ได้เสมอ และ
ข. พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายมีอำนาจจัดสังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์สองสิ่งหรือกว่านั้นขึ้นไป รวมขายไปด้วยกันได้ในเมื่อเป็นที่คาดหมายได้ว่าเงินรายได้ในการขายทอดตลาดจะเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนั้น
(2) การขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และทรัพย์สินนั้นอาจแบ่งแยกออกได้เป็นตอน ๆ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายมีอำนาจขายทรัพย์สินนั้นเป็นตอน ๆ ได้ ในเมื่อเป็นที่คาดหมายได้ว่าเงินรายได้ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินบางตอนจะเพียงพอแก่การชำระหนี้ทั้งหมดตามข้อ 75 หรือว่าเงินรายได้ทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนั้น
(3) การขายทอดตลาดทรัพย์สินหลายสิ่งด้วยกัน พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายมีอำนาจกำหนดลำดับที่จะขายทรัพย์สินนั้น
หากบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินซึ่งจะขายทอดตลาดร้องขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายรวมหรือแยกทรัพย์สินหรือขอให้ขายทรัพย์สินนั้นตามลำดับที่กำหนดไว้ หรือคัดค้านการขายของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายใน (1) ถึง (3) และพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายไม่เห็นควรปฏิบัติตามคำร้องขอหรือคำคัดค้านนั้น ให้แจ้งให้ผู้ร้องหรือผู้คัดค้านดำเนินการยื่นคำร้องต่อเลขาธิการภายในสองวันนับแต่วันที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายปฏิเสธ เพื่อขอให้เลขาธิการมีคำสั่งชี้ขาดในเรื่องนั้น และให้เลื่อนการขายไปจนกว่าเลขาธิการจะได้มีคำสั่งหรือจนกว่าจะพ้นระยะเวลาซึ่งให้ยื่นคำร้องต่อเลขาธิการแล้ว
ข้อ 61 การขายทอดตลาด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายแสดงความตกลงขายด้วยวิธีเคาะไม้หรือด้วยแสดงกิริยาอย่างใดอย่างหนึ่งตามจารีตประเพณีในการขายทอดตลาด
หากผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายการใดคัดค้านในเรื่องราคาขายก็ดี การขายไม่ชอบก็ดี ให้คัดค้านก่อนทำสัญญาซื้อขาย หรือจะซื้อจะขายแล้วให้พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกไว้เพื่อเสนอเลขาธิการพิจารณา และให้ระงับการทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินรายการนั้นไว้ก่อน เมื่อเลขาธิการมีคำวินิจฉัยประการใดให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้สู้ราคาสูงสุดและผู้คัดค้านทราบ
ข้อ 62 ในการขายทอดตลาด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายร้องขานจำนวนเงินที่มีผู้สู้ราคาสุดท้ายครั้งที่หนึ่ง สามถึงสี่หน ถ้าไม่มีผู้สู้ราคาสูงขึ้นให้ร้องขานเป็นครั้งที่สองอีกสามถึงสี่หน ถ้าไม่มีผู้สู้ราคาสูงกว่านั้นและได้ราคาพอสมควรก็ให้ลงคำ "สาม" พร้อมกับแสดงความตกลงขายตามข้อ 61 วรรคหนึ่ง แต่ถ้าก่อนแสดงความตกลงขายมีผู้สู้ราคาขึ้นไปอีก ก็ให้ร้องขานราคานั้นตั้งต้นใหม่ตามลำดับดังกล่าวแล้ว
ข้อ 63 ถ้าผู้เข้าสู้ราคาถอนคำสู้ราคาของตนเสียก่อนมีการแสดงความตกลงขาย ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายตั้งต้นขายใหม่
ข้อ 64 หากพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายเห็นว่าราคาซึ่งมีผู้สู้ราคาสูงสุดนั้นยังไม่เพียงพอ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายอาจถอนทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดได้
ข้อ 65 ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายมีเหตุสงสัยว่าผู้ใดเข้าสู้ราคาโดยไม่สุจริตก็ดี หรือไม่สามารถจะชำระราคาได้ก็ดี ให้สอบถามผู้นั้นเสียก่อนจึงแสดงความตกลงขาย
ข้อ 66 เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายแสดงความตกลงขายแล้ว ให้แจ้งให้ผู้ซื้อชำระเงินทันที เว้นแต่ที่ดินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นซึ่งมีราคาตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทขึ้นไป อาจผ่อนผันให้ผู้ซื้อวางเงินมัดจำก่อนไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของราคาซื้อ และทำสัญญาชำระส่วนที่ค้างภายในเวลาไม่เกินสิบห้าวันก็ได้ เมื่อได้รับชำระเงินครบถ้วนแล้วจึงให้โอนมอบทรัพย์สินนั้นแก่ผู้ซื้อ
ข้อ 67 การขายทอดตลาดทรัพย์สินประเภทซึ่งผู้ยึดถือครอบครองจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายก่อนเช่น อาวุธปืน เป็นต้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายแจ้งให้ผู้ซื้อวางเงินมัดจำไว้ก่อนไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของราคาซื้อ และจัดการนำใบอนุญาตมาแสดงภายในหนึ่งเดือน พร้อมทั้งใช้เงินที่ค้างชำระให้ครบ
ข้อ 68 ถ้าผู้ซื้อไม่ชำระเงินหรือไม่วางเงินมัดจำหรือชำระเงินไม่ครบตามข้อสัญญา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายนำทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาดใหม่ และแจ้งให้ผู้ซื้อตามข้อ 66 ทราบกำหนดวันเวลาขายด้วย ได้เงินเท่าใด เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และค่าเสียหายแล้ว ยังไม่คุ้มราคาค่าขายทอดตลาดครั้งก่อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดการเรียกร้องให้ผู้ซื้อเดิมชำระเงินส่วนที่ยังขาดนั้นตลอดจนเสนอคดีต่อศาลหากจำเป็น
ข้อ 69 เมื่อผู้ซื้อชำระราคาตามข้อ 66 และหรือปฏิบัติตามข้อ 67 ครบถ้วนแล้วหากทรัพย์สินที่ขาย
(1) เป็นประเภทที่จะต้องแก้ทะเบียนชื่อผู้เป็นเจ้าของ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอเลขาธิการเพื่อแจ้งให้เจ้าพนักงานซึ่งรับจดทะเบียนเกี่ยวกับทรัพย์สินนั้น ๆ จัดการแก้ทะเบียนให้แก่ผู้ซื้อด้วยและหรือ
(2) มีสัญญาผูกพันอยู่อันเป็นคุณแก่ทรัพย์สินนั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดการเพื่อให้ผู้ซื้อได้รับช่วงสิทธิและหน้าที่ตามสัญญานั้นเท่าที่จะสามารถทำได้
ข้อ 70 การขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งปรากฏชื่อผู้อื่นนอกจากนายจ้างเป็นเจ้าของร่วมอยู่ในทะเบียนหรือในหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ให้พนักงานเจ้าหน้าที่กันเงินส่วนของผู้นั้นไว้เพื่อจ่ายแก่ผู้มีสิทธิต่อไป
การร้องขอกันส่วนตามวรรคหนึ่ง หรือการร้องขอกันส่วนทรัพย์อื่นนอกจากที่ปรากฏตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ร้องยื่นคำร้องเป็นหนังสือต่อเลขาธิการ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสนอเลขาธิการพิจารณาสั่งการ เมื่อเลขาธิการมีคำสั่งประการใดให้แจ้งให้ผู้ร้องทราบ
เงินที่พนักงานเจ้าหน้าที่กันส่วนไว้ตามวรรคหนึ่ง ถ้าผู้มีสิทธิมิได้เรียกเอาภายในหนึ่งปีนับแต่วันขายทอดตลาด ให้นำฝากสำนักงาน
ข้อ 71 ในกรณีที่ผู้ซื้อได้วางเงินมัดจำตามข้อ 66 หรือข้อ 67 ไว้แล้ว แต่ไม่ชำระเงินที่ค้างตามกำหนด ให้ริบเงินมัดจำนั้นเสียแล้วนำทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาดใหม่ เว้นแต่เงินมัดจำที่ริบจะเพียงพอแก่การชำระหนี้ที่ค้างทั้งหมดตามข้อ 75 และเมื่อขายใหม่แล้วได้เงินเท่าใด เมื่อหักค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายแล้วยังไม่คุ้มราคาขายทอดตลาดครั้งก่อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดการเรียกร้องให้ผู้ซื้อเดิมชำระเงินส่วนที่ยังขาดนั้น ตลอดจนเสนอคดีต่อศาลหากจำเป็น
หากผู้ซื้อขอผัดการชำระเงินและหรือการปฏิบัติตามข้อ 67 โดยมีเหตุผลอันสมควรให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอเลขาธิการเพื่อพิจารณาสั่งการ
ข้อ 72 หากเงินมัดจำที่ริบไว้ตามข้อ 71 มีจำนวนคุ้มกับหนี้ที่ค้างอยู่ทั้งหมดตามข้อ 75 ก็ให้นำเงินที่ริบนั้นส่งใช้หนี้เป็นลำดับไปตามข้อ 75 แล้วเสนอเลขาธิการเพื่อมีคำสั่งถอนการยึดหรืออายัดทรัพย์สินต่อไป
ข้อ 73 ถ้าเงินมัดจำที่ริบไว้มีจำนวนไม่คุ้มกับหนี้ที่ค้าง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เก็บรักษาเงินนั้นไว้ก่อน เมื่อขายทรัพย์สินได้แล้วจึงให้นำเงินที่ขายได้ในครั้งหลังมารวมกับเงินมัดจำที่ริบไว้ แล้วจัดใช้หนี้ที่ค้างเป็นลำดับไปตามข้อ 75
ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นำทรัพย์สินที่มีการวางเงินมัดจำไว้แล้วมาขายทอดตลาดอีก แต่ไม่มีผู้ซื้อทรัพย์สินดังกล่าว ให้เสนอเลขาธิการพิจารณาอนุญาตให้นำเงินมัดจำที่เก็บรักษาไว้มาจัดใช้หนี้ที่ค้างตามข้อ 75 ไปพลางก่อน
ข้อ 74 ถ้าปรากฏว่าทรัพย์สินที่ยึดไว้นั้นเสื่อมสลายไปทั้งหมด หรือถึงขนาดทำให้ไร้ค่าก็ดี หรือหลุดพ้นไปจากอำนาจตามคำสั่งยึดหรืออายัดของเลขาธิการก็ดี หรือมีเหตุอื่นใดอันทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่สามารถขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นได้อีกต่อไปก็ดี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอเลขาธิการเพื่อสั่งการตามที่เห็นสมควร หรือนำเงินมัดจำที่ริบจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าวซึ่งได้เก็บรักษาไว้มาจัดใช้หนี้ตามข้อ 75 แล้วแต่กรณี
ข้อ 75 เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินซึ่งยึดหรืออายัด รวมทั้งเงินมัดจำที่ริบไว้ตามระเบียบนี้ให้จัดใช้หนี้ตามลำดับดังนี้คือ
(1) ค่าใช้จ่ายตามหมวด 6
(2) ค่าเสียหาย
(3) เงินสมทบกองทุนเงินทดแทน และหรือเงินเพิ่ม
ถ้ามีเงินและหรือทรัพย์สินเหลือ ให้คืนแก่เจ้าของทรัพย์สินต่อไป
--ราชกิจจานุเบกษา--
การขายทอดตลาดทรัพย์สิน
ข้อ 43 เมื่อได้ทำการยึดทรัพย์สินหรือได้รับมอบทรัพย์สินตามคำสั่งอายัดแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่นำเสนอเลขาธิการเพื่อพิจารณาออกคำสั่งให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้น เว้นแต่กรณีตามข้อ 36
เมื่อเลขาธิการมีคำสั่งให้ขายทอดตลาดแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการขายทอดตลาดได้จนกว่าจะเสร็จสิ้น โดยมิต้องดำเนินการตามวรรคหนึ่งอีก
ข้อ 44 เมื่อเลขาธิการมีคำสั่งให้ขายทอดตลาดแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำประกาศขายทอดตลาดแล้วให้ดำเนินการดังนี้
(1) จัดส่งประกาศแก่นายจ้าง ลูกหนี้แห่งสิทธิเรียกร้องในกรณีที่มีการอายัดสิทธิเรียกร้องนั้น และผู้ซื้อตามข้อ 66 ตลอดจนบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับเอาแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาด ซึ่งทราบได้ตามทะเบียนหรือโดยประการอื่นตามที่เห็นสมควร โดยให้นำวิธีการส่งคำสั่งในข้อ 11 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
(2) ปิดประกาศไว้โดยเปิดเผย ณ สถานที่ที่จะขาย สถานที่ที่ทรัพย์ตั้งอยู่ ที่ชุมนุมชนหรือสำนักงานแล้วแต่กรณี และสถานที่ราชการอื่นอันสมควรจะปิดไว้ก่อนวันขายไม่น้อยกว่าห้าวันและอาจโฆษณาในหนังสือพิมพ์และหรือทางวิทยุกระจายเสียงก่อนวันขายด้วยก็ได้
ข้อ 45 ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินให้แสดงรายละเอียดดังนี้
(1) วันเวลา สถานที่ที่จะขาย และรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สิน
(2) ข้อสัญญา คำเตือน เงื่อนไขและเงื่อนเวลาการชำระเงิน
(3) ข้อสัญญาผูกพันอันเป็นคุณแก่ทรัพย์สินนั้น หรือค่าภาระติดพันอันเกี่ยวค้างอยู่หรือเป็นทรัพย์สินที่มีดอกผลเกิดในระหว่างการยึดหรืออายัด
(4) ชื่อผู้รับจำนอง ต้นเงินและดอกเบี้ยที่ค้างชำระ และข้อความให้ผู้ซื้อต้องรับจำนองติดไปด้วยในกรณีที่ขายทรัพย์สินอย่างการจำนองติดไป
ข้อ 46 การกำหนดวันขายทอดตลาดทรัพย์สิน ให้นับตั้งแต่วันที่ลงในประกาศขายทอดตลาด โดยถือเกณฑ์ดังนี้
(1) ที่ดินไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือน และไม่เกินสองเดือน
(2) เรือน โรง สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ และทรัพย์สินรายใหญ่ไม่น้อยกว่ายี่สิบวันและไม่เกินหนึ่งเดือน
(3) ทรัพย์สินอื่น ๆ ไม่น้อยกว่าห้าวันและไม่เกินยี่สิบวัน
ข้อ 47 ให้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ณ ที่ตั้งหน่วยงานของสำนักงานหรือสถานที่ที่ทรัพย์สินตั้งอยู่
ในกรณีที่จะทำการขาย ณ สถานที่อื่นนอกจากที่กำหนดในวรรคหนึ่ง ต้องได้รับความเห็นชอบจากเลขาธิการ
ข้อ 48 การขายทอดตลาดสุรามีจำนวนน้ำสุราตั้งแต่สิบลิตรขึ้นไป ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งขอความร่วมมือไปยังกรมสรรพสามิต สรรพสามิตจังหวัด หรือสรรพสามิตอำเภอ แล้วแต่กรณีล่วงหน้าก่อนวันขายพอสมควรเพื่อขอให้จัดเจ้าพนักงานสรรพสามิตมากำกับออกใบขนสุราให้แก่ผู้ซื้อด้วย
ข้อ 49 การขายทอดตลาดโบราณวัตถุ เช่น พระพุทธรูป หนังสือฉบับเขียนโบราณ เป็นต้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนาประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นไปยังเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติด้วย
ข้อ 50 การขายทอดตลาดตู้นิรภัย หีบ หรือกำปั่นเก็บทรัพย์สิน ถ้าปรากฏว่ายังเปิดไม่ได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการขายจัดการเปิดเสียก่อนจึงจะขายทอดตลาดได้
ข้อ 51 การขายทอดตลาดทรัพย์สินที่มีการจำนองติด ให้ขายโดยวิธีการตามที่เลขาธิการสั่งกำหนด
ถ้าเลขาธิการมิได้กำหนดอย่างใด ให้ขายอย่างบังคับจำนองหรือจำนองติดไป หรือตั้งราคาขั้นต่ำโดยความยินยอมของคู่กรณีทุกฝ่าย แล้วแต่พนักงานเจ้าหน้าที่จะเห็นสมควร
ในการขายทรัพย์สินที่มีการจำนำติด ให้ปฏิบัติอย่างวิธีการขายทรัพย์สินที่มีการจำนองติดโดยอนุโลม
ข้อ 52 การขายทรัพย์สินอย่างบังคับจำนอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการขายอย่างการขายทรัพย์สินธรรมดา โดยไม่คำนึงถึงการจำนอง
ข้อ 53 การขายทรัพย์สินอย่างการจำนองติดไป ให้ประกาศแสดงชื่อผู้รับจำนองพร้อมทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยที่ยังค้างชำระจนถึงวันขาย และ ข้อความว่าผู้ใดซื้อทรัพย์สินนั้นต้องรับภาระจำนองติดไปด้วยโดยชัดเจน
ข้อ 54 การขายทรัพย์สินจำนองโดยวิธีตั้งราคาขั้นต่ำ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดราคาขั้นต่ำที่จะขายลงไว้ในประกาศ โดยคำนวณต้นเงินและดอกเบี้ยจำนองซึ่งยังค้างชำระแก่ผู้รับจำนองจนถึงวันขายกับค่าใช้จ่ายในการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินรายนั้น
ข้อ 55 ในการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สิน ให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่น้อยกว่าสามคนร่วมกันในการประเมินราคาและดำเนินการขาย
ข้อ 56 ให้ดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินโดยเปิดเผย
ข้อ 57 ก่อนเริ่มต้นขายทอดตลาด ให้ปักธงเครื่องหมายขายทอดตลาดตาหมากรุก ณ สถานที่ขายทรัพย์สิน และอ่านประกาศโฆษณาการขาย ณ ที่นั้นโดยเปิดเผย
ข้อ 58 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายแจ้งให้บรรดาผู้เข้าสู้ราคา ซึ่งมิได้เข้าสู้ราคาในนามของตนเองแต่กระทำการแทนบุคคลอื่น แสดงใบมอบอำนาจก่อนเข้าสู้ราคา มิฉะนั้นให้ถือว่าผู้เข้าสู้ราคาได้กระทำในนามของตนเอง และหากเป็นกรณีที่ต้องมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ผู้เข้าสู้ราคาซึ่งประมูลได้จะขอให้เปลี่ยนใส่ชื่อบุคคลอื่นเป็นผู้ซื้อโดยอ้างว่าตนเป็นเพียงตัวแทนมิได้
ข้อ 59 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดการให้ผู้เข้าสู้ราคาทุกคนจดแจ้งชื่อ ที่อยู่พร้อมทั้งลงลายมือชื่อแสดงความประสงค์เข้าสู้ราคาก่อนขายทรัพย์สินแต่ละรายการ
ข้อ 60 ในการขายทอดตลาด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายถือปฎิบัติดังนี้
(1) การขายทอดตลาดทรัพย์สินที่มีหลายสิ่งด้วยกัน ให้แยกขายทีละสิ่งต่อเนื่องกันไปแต่
ก. พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายมีอำนาจจัดสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีราคาเล็กน้อยรวมขายเป็นกอง ๆ ได้เสมอ และ
ข. พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายมีอำนาจจัดสังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์สองสิ่งหรือกว่านั้นขึ้นไป รวมขายไปด้วยกันได้ในเมื่อเป็นที่คาดหมายได้ว่าเงินรายได้ในการขายทอดตลาดจะเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนั้น
(2) การขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และทรัพย์สินนั้นอาจแบ่งแยกออกได้เป็นตอน ๆ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายมีอำนาจขายทรัพย์สินนั้นเป็นตอน ๆ ได้ ในเมื่อเป็นที่คาดหมายได้ว่าเงินรายได้ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินบางตอนจะเพียงพอแก่การชำระหนี้ทั้งหมดตามข้อ 75 หรือว่าเงินรายได้ทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนั้น
(3) การขายทอดตลาดทรัพย์สินหลายสิ่งด้วยกัน พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายมีอำนาจกำหนดลำดับที่จะขายทรัพย์สินนั้น
หากบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินซึ่งจะขายทอดตลาดร้องขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายรวมหรือแยกทรัพย์สินหรือขอให้ขายทรัพย์สินนั้นตามลำดับที่กำหนดไว้ หรือคัดค้านการขายของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายใน (1) ถึง (3) และพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายไม่เห็นควรปฏิบัติตามคำร้องขอหรือคำคัดค้านนั้น ให้แจ้งให้ผู้ร้องหรือผู้คัดค้านดำเนินการยื่นคำร้องต่อเลขาธิการภายในสองวันนับแต่วันที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายปฏิเสธ เพื่อขอให้เลขาธิการมีคำสั่งชี้ขาดในเรื่องนั้น และให้เลื่อนการขายไปจนกว่าเลขาธิการจะได้มีคำสั่งหรือจนกว่าจะพ้นระยะเวลาซึ่งให้ยื่นคำร้องต่อเลขาธิการแล้ว
ข้อ 61 การขายทอดตลาด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายแสดงความตกลงขายด้วยวิธีเคาะไม้หรือด้วยแสดงกิริยาอย่างใดอย่างหนึ่งตามจารีตประเพณีในการขายทอดตลาด
หากผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายการใดคัดค้านในเรื่องราคาขายก็ดี การขายไม่ชอบก็ดี ให้คัดค้านก่อนทำสัญญาซื้อขาย หรือจะซื้อจะขายแล้วให้พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกไว้เพื่อเสนอเลขาธิการพิจารณา และให้ระงับการทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินรายการนั้นไว้ก่อน เมื่อเลขาธิการมีคำวินิจฉัยประการใดให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้สู้ราคาสูงสุดและผู้คัดค้านทราบ
ข้อ 62 ในการขายทอดตลาด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายร้องขานจำนวนเงินที่มีผู้สู้ราคาสุดท้ายครั้งที่หนึ่ง สามถึงสี่หน ถ้าไม่มีผู้สู้ราคาสูงขึ้นให้ร้องขานเป็นครั้งที่สองอีกสามถึงสี่หน ถ้าไม่มีผู้สู้ราคาสูงกว่านั้นและได้ราคาพอสมควรก็ให้ลงคำ "สาม" พร้อมกับแสดงความตกลงขายตามข้อ 61 วรรคหนึ่ง แต่ถ้าก่อนแสดงความตกลงขายมีผู้สู้ราคาขึ้นไปอีก ก็ให้ร้องขานราคานั้นตั้งต้นใหม่ตามลำดับดังกล่าวแล้ว
ข้อ 63 ถ้าผู้เข้าสู้ราคาถอนคำสู้ราคาของตนเสียก่อนมีการแสดงความตกลงขาย ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายตั้งต้นขายใหม่
ข้อ 64 หากพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายเห็นว่าราคาซึ่งมีผู้สู้ราคาสูงสุดนั้นยังไม่เพียงพอ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายอาจถอนทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดได้
ข้อ 65 ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายมีเหตุสงสัยว่าผู้ใดเข้าสู้ราคาโดยไม่สุจริตก็ดี หรือไม่สามารถจะชำระราคาได้ก็ดี ให้สอบถามผู้นั้นเสียก่อนจึงแสดงความตกลงขาย
ข้อ 66 เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายแสดงความตกลงขายแล้ว ให้แจ้งให้ผู้ซื้อชำระเงินทันที เว้นแต่ที่ดินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นซึ่งมีราคาตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทขึ้นไป อาจผ่อนผันให้ผู้ซื้อวางเงินมัดจำก่อนไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของราคาซื้อ และทำสัญญาชำระส่วนที่ค้างภายในเวลาไม่เกินสิบห้าวันก็ได้ เมื่อได้รับชำระเงินครบถ้วนแล้วจึงให้โอนมอบทรัพย์สินนั้นแก่ผู้ซื้อ
ข้อ 67 การขายทอดตลาดทรัพย์สินประเภทซึ่งผู้ยึดถือครอบครองจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายก่อนเช่น อาวุธปืน เป็นต้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายแจ้งให้ผู้ซื้อวางเงินมัดจำไว้ก่อนไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของราคาซื้อ และจัดการนำใบอนุญาตมาแสดงภายในหนึ่งเดือน พร้อมทั้งใช้เงินที่ค้างชำระให้ครบ
ข้อ 68 ถ้าผู้ซื้อไม่ชำระเงินหรือไม่วางเงินมัดจำหรือชำระเงินไม่ครบตามข้อสัญญา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขายนำทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาดใหม่ และแจ้งให้ผู้ซื้อตามข้อ 66 ทราบกำหนดวันเวลาขายด้วย ได้เงินเท่าใด เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และค่าเสียหายแล้ว ยังไม่คุ้มราคาค่าขายทอดตลาดครั้งก่อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดการเรียกร้องให้ผู้ซื้อเดิมชำระเงินส่วนที่ยังขาดนั้นตลอดจนเสนอคดีต่อศาลหากจำเป็น
ข้อ 69 เมื่อผู้ซื้อชำระราคาตามข้อ 66 และหรือปฏิบัติตามข้อ 67 ครบถ้วนแล้วหากทรัพย์สินที่ขาย
(1) เป็นประเภทที่จะต้องแก้ทะเบียนชื่อผู้เป็นเจ้าของ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอเลขาธิการเพื่อแจ้งให้เจ้าพนักงานซึ่งรับจดทะเบียนเกี่ยวกับทรัพย์สินนั้น ๆ จัดการแก้ทะเบียนให้แก่ผู้ซื้อด้วยและหรือ
(2) มีสัญญาผูกพันอยู่อันเป็นคุณแก่ทรัพย์สินนั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดการเพื่อให้ผู้ซื้อได้รับช่วงสิทธิและหน้าที่ตามสัญญานั้นเท่าที่จะสามารถทำได้
ข้อ 70 การขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งปรากฏชื่อผู้อื่นนอกจากนายจ้างเป็นเจ้าของร่วมอยู่ในทะเบียนหรือในหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ให้พนักงานเจ้าหน้าที่กันเงินส่วนของผู้นั้นไว้เพื่อจ่ายแก่ผู้มีสิทธิต่อไป
การร้องขอกันส่วนตามวรรคหนึ่ง หรือการร้องขอกันส่วนทรัพย์อื่นนอกจากที่ปรากฏตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ร้องยื่นคำร้องเป็นหนังสือต่อเลขาธิการ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสนอเลขาธิการพิจารณาสั่งการ เมื่อเลขาธิการมีคำสั่งประการใดให้แจ้งให้ผู้ร้องทราบ
เงินที่พนักงานเจ้าหน้าที่กันส่วนไว้ตามวรรคหนึ่ง ถ้าผู้มีสิทธิมิได้เรียกเอาภายในหนึ่งปีนับแต่วันขายทอดตลาด ให้นำฝากสำนักงาน
ข้อ 71 ในกรณีที่ผู้ซื้อได้วางเงินมัดจำตามข้อ 66 หรือข้อ 67 ไว้แล้ว แต่ไม่ชำระเงินที่ค้างตามกำหนด ให้ริบเงินมัดจำนั้นเสียแล้วนำทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาดใหม่ เว้นแต่เงินมัดจำที่ริบจะเพียงพอแก่การชำระหนี้ที่ค้างทั้งหมดตามข้อ 75 และเมื่อขายใหม่แล้วได้เงินเท่าใด เมื่อหักค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายแล้วยังไม่คุ้มราคาขายทอดตลาดครั้งก่อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดการเรียกร้องให้ผู้ซื้อเดิมชำระเงินส่วนที่ยังขาดนั้น ตลอดจนเสนอคดีต่อศาลหากจำเป็น
หากผู้ซื้อขอผัดการชำระเงินและหรือการปฏิบัติตามข้อ 67 โดยมีเหตุผลอันสมควรให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอเลขาธิการเพื่อพิจารณาสั่งการ
ข้อ 72 หากเงินมัดจำที่ริบไว้ตามข้อ 71 มีจำนวนคุ้มกับหนี้ที่ค้างอยู่ทั้งหมดตามข้อ 75 ก็ให้นำเงินที่ริบนั้นส่งใช้หนี้เป็นลำดับไปตามข้อ 75 แล้วเสนอเลขาธิการเพื่อมีคำสั่งถอนการยึดหรืออายัดทรัพย์สินต่อไป
ข้อ 73 ถ้าเงินมัดจำที่ริบไว้มีจำนวนไม่คุ้มกับหนี้ที่ค้าง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เก็บรักษาเงินนั้นไว้ก่อน เมื่อขายทรัพย์สินได้แล้วจึงให้นำเงินที่ขายได้ในครั้งหลังมารวมกับเงินมัดจำที่ริบไว้ แล้วจัดใช้หนี้ที่ค้างเป็นลำดับไปตามข้อ 75
ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นำทรัพย์สินที่มีการวางเงินมัดจำไว้แล้วมาขายทอดตลาดอีก แต่ไม่มีผู้ซื้อทรัพย์สินดังกล่าว ให้เสนอเลขาธิการพิจารณาอนุญาตให้นำเงินมัดจำที่เก็บรักษาไว้มาจัดใช้หนี้ที่ค้างตามข้อ 75 ไปพลางก่อน
ข้อ 74 ถ้าปรากฏว่าทรัพย์สินที่ยึดไว้นั้นเสื่อมสลายไปทั้งหมด หรือถึงขนาดทำให้ไร้ค่าก็ดี หรือหลุดพ้นไปจากอำนาจตามคำสั่งยึดหรืออายัดของเลขาธิการก็ดี หรือมีเหตุอื่นใดอันทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่สามารถขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นได้อีกต่อไปก็ดี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอเลขาธิการเพื่อสั่งการตามที่เห็นสมควร หรือนำเงินมัดจำที่ริบจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าวซึ่งได้เก็บรักษาไว้มาจัดใช้หนี้ตามข้อ 75 แล้วแต่กรณี
ข้อ 75 เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินซึ่งยึดหรืออายัด รวมทั้งเงินมัดจำที่ริบไว้ตามระเบียบนี้ให้จัดใช้หนี้ตามลำดับดังนี้คือ
(1) ค่าใช้จ่ายตามหมวด 6
(2) ค่าเสียหาย
(3) เงินสมทบกองทุนเงินทดแทน และหรือเงินเพิ่ม
ถ้ามีเงินและหรือทรัพย์สินเหลือ ให้คืนแก่เจ้าของทรัพย์สินต่อไป
--ราชกิจจานุเบกษา--