กฏกระทรวง ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533

ข่าวกฏหมายและประกาศ Thursday July 1, 1999 08:58 —พรบ.ประกันสังคม

                                         กฏกระทรวง
ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2542)
ออกตามความในพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533
___________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และ มาตรา 77
แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 3)
พ.ศ. 2542 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมออกกฏกระทรวงได้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533
ข้อ 2 การจ่ายเงินบำนาญชราภาพให้จ่ายเป็นรายเดือนในอัราร้อยละสิบห้าของค่าจ้างเฉลี่ยหกสิบเดือนสุดท้ายที่ใช้
เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
ในกรณีที่ผู้ประกันตนได้จ่ายเงินสมทบเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราเงินบำนาญชราภาพตามวรรคหนึ่งขึ้นอีก
ในอัตราร้อยละหนึ่งต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบทุกสิบสองเดือน
ในกรณีที่ผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตาย ให้งดการจ่ายเงินบำราญชราภาพตั้งแต่เดือนถัดจากเดือนที่ผู้รับเงิน
บำนาญชราภาพถึงแก่ความตาย
ข้อ 3 การจ่ายเงินบำนาญชราภาพให้แก่บุคคลซึ่งถูกงดการจ่ายเงินบำนาญชราภาพและในภายหลังได้กลับเข้ามาเป็น
ผู้ประกันตนใหม่ตามมาตรา 77 ตรี ให้จ่ายตามจำนวนเงินบำราญชราภาพเดิมที่ได้รับก่อนกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน และให้จ่าย
เพิ่มอีกร้อยละหนึ่งของค่าจ้างที่ใช้ในการคำนวณเงินบำนาญชราภาพเดิมก่อนกลับเข้าเป็นผู้ประกันตนต่อระยะเวลาการจ่ายเงิน
สมทบครบทุกสิบสองเดือนในช่วงระยะเวลาที่กลับเข้ามาเป็นผู้ประกันตนในครั้งหลัง
ให้งดการจ่ายเงินบำนาญชราภาพแก่บุคคลตามวรรคหนึ่งตั้งแต่เดือนที่กลับเข้าเป็นผู้ประกันตน
ข้อ 4 เงินบำนาญชราภาพตามข้อ 2 หรือข้อ 3 จะต้องไม่น้อยกว่าจำนวนเงินบำนาญชราภาพขั้นต่ำตามที่สำนักงาน
ประกันสังคมประกาศกำหนด ทั้งนี้ โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสมกับสภาพทางเศรษฐกิจในขณะนั้นด้วย
ข้อ 5 ผู้รับเงินบำนาญชราภาพต้องแสดงตนหรือยื่นหลักฐานการมีชีวิตอยู่ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามระยะเวลาที่
สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด ในกรณีที่ผู้รับเงินบำนาญชราภาพไปแสดงตนหรือยื่นหลักฐานการมีชีวิตอยู่
หลักฐานการมีชีวิตอยู่ตามวรรคหนึ่ง ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่ทางราชการออกให้หรือหนังสือรับรองข
องเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือข้าราชการตั้งแต่ระดับ 3 หรือเทียบเท่าขึ้นไป
ข้อ 6 การจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ ให้เป็นไปตามอัตรดังต่อไปนี้
(1) กรณีมี่มีการจ่ายเงินสมทบต่ำกว่าสิบสองเดือน ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพมีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบ
ที่ผู้ประกันตนจ่ายสมทบเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรและกรณีชราภาพ
(2) กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบตั้งแต่สิบสองเดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพมีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบ
ที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายสมทบเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรและกรณีชราภาพพร้อมผลประโยชน์ตอบแทน
ตามที่สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด
ข้อ 7 การจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ เมื่อมีอายุรบห้าสิบห้าปีบริบูรณ์
(1) กรณีความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลงด้วยเหตุอื่นนอกจากถึงแก่ความตายก่อนอายุครบห้าสิบห้าปีบริบูรณ์
ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพเมื่อมีอายุครบห้าสิบห้าปีบริบูรณ์
(2) กรณีความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลงด้วยเหตุอื่นนอกจากถึงแก่ความตายเมื่อมีอายุครบห้าสิบห้าปีบริบูรณ์ขึ้นไป
ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพเมื่อความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
(3) กรณีความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลงด้วยเหตุถึงแก่ความตาย หรือถึงแก่ความตายภายหลังจากความเป็นผู้ประกันตน
สิ้นสุดลงไปแล้ว ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิตามมาตรา 77 จัตวา
(4) กรณีเป็นผู้ทุพพลภาพตามประกาศสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ในกรณีทุพพลภาพ ให้จ่ายเงิน
บำเหน็จชราภาพเมื่อมีคำวินิจฉัยให้เป็นผู้ทุพพลภาพ
ข้อ 8 กรณีผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายในหกสิบเดือนนับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ
ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพเป็นจำนวนสิบเท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับคราวสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย
ข้อ 9 กรณีผู้มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่คตวามตายก่อนได้รับเงินบำนาญชราภาพ ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ
ตามอัตราที่กำหนดในข้อ 6 (2)
ข้อ 10 ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพตามอัตราที่กำหนดในข้อ 6 (2) ในกรณีที่ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเงินทดแทน
การขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ และเงินบำนาญชราภาพในเวลาเดียวกันตามมาตรา 77 เบญจ
ข้อ 11 กรณีบุคคลซึ่งถูกงดการจ่ายเงินบำนาญชราภาพเนื่องจากกลับเข้าเป็นผู้ประกันตนและต่อมาความเป็น
ผู้ประกันตนสิ้นสุดลงด้วยเหตุถึงแก่ความตาย หากบุคคลนั้นได้รับเงินบำนาญชราภาพมาแล้วไม่เกินหกสิบเดือน ให้จ่ายเงิน
บำเหน็จชราภาพเป็นจำนวนสิบเท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนคราวสุดท้ายก่อนกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน และเงิน
บำเหน็จชราภาพตามข้อ 6 (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี สำหรับการจ่ายเงินสมทบในช่วงระยะเวลาที่กลับเข้าเป็น
ผู้ประกันตนครั้งหลัง
ข้อ 12 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 เป็นต้นไป
ให้ไว้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2542
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายประโยชน์ทดแทน
กรณีชราภาพให้เป็นไปตามสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนพึงได้รับตามที่กฎหมายบัญญัติ และโดยที่มาตรา 77 แห่งพระราชบัญญัติ
ประกันสังคม พ.ศ.2533 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2542 บัญญัติให้การจ่ายประโยชน์
ทดแทนในกรณีชราภาพ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการระยะเวลา และอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ