กฎกระทรวง
ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2541)
ออกตามความในพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533
___________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 และมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร สำหรับบุตรชอบด้วยกฎหมายซึ่งมีอายุไม่เกินหกปีบริบูรณ์ โดยนับเรียงลำดับการเกิดก่อนหลัง ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นบุตรที่เกิดก่อนหรือหลังการเป็นผู้ประกันตน
บุตรชอบด้วยกฎหมายตามวรรคหนึ่งไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
ข้อ 2 ในกรณีที่ผู้ประกันตนได้จ่ายเงินสมทบจนก่อให้เกิดสิทธิในการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรแล้ว เมื่อมีบุตรเกิดในระหว่างเดือนให้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์เต็มเดือน
ข้อ 3 ในกรณีที่บุตรซึ่งได้รับการสงเคราะห์มีอายุครบหกปีบริบูรณ์ หรือถึงแก่ความตาย หรือได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น หรือผู้ประกันตนสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง ให้สิทธิในการได้รับประโยชน์ทดแทนสิ้นสุดลงตั้งแต่เดือนถัดจากเดือนที่บุตรมีอายุครบหกปีบริบูรณ์ หรือถึงแก่ความตายหรือยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น หรือผู้ประกันตนสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง แล้วแต่กรณี
ข้อ 4 ประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรให้เหมาจ่ายในอัตราหนึ่งร้อยห้าสิบบาทต่อเดือนต่อบุตรหนึ่งคน
ให้ไว้ ณ วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2541
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ได้บัญญัติให้การกำหนดประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร ได้แก่ ค่าสงเคราะห์ความเป็นอยู่ของบุตร ค่าเล่าเรียนบุตร ค่ารักษาพยาบาลบุตร และค่าสงเคราะห์อื่นที่จำเป็น ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้