พระราชกฤษฎีกา
ยุบเลิกองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์
พ.ศ.2543
____________
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2543
เป็นปีที่ 55 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญติว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล พ.ศ.2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฎษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกายุบเลิกองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2543"
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกพระราชกฎษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2540
มาตรา 4 องค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้ยุบเลิกไปตามความในมาตรา 3 ถือว่ายังคงอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้งบุคคลขึ้นคณะหนึ่งจำนวนไม่เกินเก้าคนเป็นคณะกรรมการผู้ชำระบัญชีขององค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบไปด้วยผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และผู้แทนสำนักงบประมาณ
ให้คณะกรรมการผู้ชำระบัญชีดำเนินการชำระบัญชีกิจการองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์โดยมิชักช้า
มาตรา 6 ให้นำบทบัญญัติหมวด 5 ลักษณะ 22 ในบรรพ 3 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับแก่อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการผู้ชำระบัญชีขององค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์โดยอนุโลม
มาตรา 7 เมื่อเสร็จการชำระบัญชีแล้ว ให้คณะกรรมการผู้ชำระบัญชีปฏิบัติดังนี้
(1) เสนอรายงานการชำระบัญชีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วว่า การชำระบัญชีได้ดำเนินไปอย่างใดและได้จัดทรัพย์สินของ องค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ไปประการใดต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอนุมัติภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่เสร็จการชำระบัญชี รายงานการชำระบัญชีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอนุมัติแล้ว ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้ถือวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นวันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชี
(2) โอนทรัพย์สินที่ยังคงเหลืออยู่ให้กระทรวงการคลังโดยมิชักช้าภายหลังวันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชี
(3) มอบสมุด บัญชี และเอกสารทั้งหลายขององค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ให้แก่กระทรวงการคลังภายในกำหนดสิบสี่วันนับแต่วันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชีและให้กระทรวงการคลังรักษาไว้สิบปีนับแต่วันดังกล่าว
สมุด บัญชี และเอกสารที่มอบให้แก่กระทรวงการคลังตามวรรคหนึ่ง (3) ให้เปิดเผยแก่ผู้มีส่วนได้เสียตรวจดูได้โดยไม่ต้องเรียกค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่งอย่างใด
มาตรา 8 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลีกภัย
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันได้มีการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือและเสริมสร้างฐานะทางการเงินให้กับสถาบันการเงินแล้ว ซึ่งสามารถทดแทนองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในการแก้ปัญหาของสถาบันการเงินได้ สมควรยุบเลิกองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์และกำหนดวิธีการจัดทรัพย์สินตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล พ.ศ. 2496 จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
--ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนที่ 12 ก--
ยุบเลิกองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์
พ.ศ.2543
____________
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2543
เป็นปีที่ 55 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญติว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล พ.ศ.2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฎษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกายุบเลิกองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2543"
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกพระราชกฎษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2540
มาตรา 4 องค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้ยุบเลิกไปตามความในมาตรา 3 ถือว่ายังคงอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้งบุคคลขึ้นคณะหนึ่งจำนวนไม่เกินเก้าคนเป็นคณะกรรมการผู้ชำระบัญชีขององค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบไปด้วยผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และผู้แทนสำนักงบประมาณ
ให้คณะกรรมการผู้ชำระบัญชีดำเนินการชำระบัญชีกิจการองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์โดยมิชักช้า
มาตรา 6 ให้นำบทบัญญัติหมวด 5 ลักษณะ 22 ในบรรพ 3 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับแก่อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการผู้ชำระบัญชีขององค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์โดยอนุโลม
มาตรา 7 เมื่อเสร็จการชำระบัญชีแล้ว ให้คณะกรรมการผู้ชำระบัญชีปฏิบัติดังนี้
(1) เสนอรายงานการชำระบัญชีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วว่า การชำระบัญชีได้ดำเนินไปอย่างใดและได้จัดทรัพย์สินของ องค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ไปประการใดต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอนุมัติภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่เสร็จการชำระบัญชี รายงานการชำระบัญชีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอนุมัติแล้ว ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้ถือวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นวันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชี
(2) โอนทรัพย์สินที่ยังคงเหลืออยู่ให้กระทรวงการคลังโดยมิชักช้าภายหลังวันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชี
(3) มอบสมุด บัญชี และเอกสารทั้งหลายขององค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ให้แก่กระทรวงการคลังภายในกำหนดสิบสี่วันนับแต่วันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชีและให้กระทรวงการคลังรักษาไว้สิบปีนับแต่วันดังกล่าว
สมุด บัญชี และเอกสารที่มอบให้แก่กระทรวงการคลังตามวรรคหนึ่ง (3) ให้เปิดเผยแก่ผู้มีส่วนได้เสียตรวจดูได้โดยไม่ต้องเรียกค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่งอย่างใด
มาตรา 8 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลีกภัย
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันได้มีการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือและเสริมสร้างฐานะทางการเงินให้กับสถาบันการเงินแล้ว ซึ่งสามารถทดแทนองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในการแก้ปัญหาของสถาบันการเงินได้ สมควรยุบเลิกองค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์และกำหนดวิธีการจัดทรัพย์สินตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล พ.ศ. 2496 จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
--ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนที่ 12 ก--