เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน +๓ ครั้งที่ ๑๓ ณ กรุงฮานอย ในระหว่างเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๗ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ผู้นำอาเซียนเห็นพ้องให้มีการหารือในกลุ่มประเทศอาเซียน +๓ อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชียตะวันออก (East Asia Economic Free Trade Area — EAFTA) ในการนี้ จีนได้ประกาศให้การสนับสนุนเงินจำนวน ๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่กองทุนอาเซียน +๓ และจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเชียตะวันออก (East Asia Forum) ครั้งที่ ๘ ในปี ๒๕๕๔ นอกจากนี้ ที่ประชุมส่วนใหญ่สนับสนุนการจัดตั้งกลไกสำรองข้าวในภูมิภาค (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve - APTERR) และสนับสนุนให้มีการลงนามความตกลงเพื่อจัดตั้งกลไกดังกล่าวให้มีผลในทางปฏิบัติในโอกาสแรกด้วย
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมความสำเร็จของความร่วมมือด้านการเงินของกลุ่มประเทศอาเซียน +๓ อาทิ การมีผลบังคับใช้ของมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative Multilateralization — CMIM) เป็นต้น และแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความผันผวนของค่าเงินในภูมิภาค ซึ่งกลุ่มประเทศอาเซียน +๓ ควรแสวงหามาตรการร่วมกันในการรับมือกับปัญหาดังกล่าว และเรียกร้องให้รัฐมนตรีคลังของประเทศอาเซียน +๓ เข้ามามีบทบาทร่วมกันในส่วนนี้ ในด้านความเชื่อมโยงระหว่างกันในภูมิภาค นายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการสร้างหุ้นส่วนด้านเครือข่ายความเชื่อมโยงอาเซียน +๓ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในภูมิภาคอาเซียน และขอให้พิจารณาการจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน +๓ ด้านการขนส่งด้วย ในการนี้ นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความยินดีกับเวียดนามในฐานะประธานอาเซียนที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอด G๒๐ ที่กรุงโซล และขอให้ประเทศอาเซียน +๓ ให้การสนับสนุนเวียดนามในการเข้าร่วมประชุมนี้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กล่าวชื่นชมและสนับสนุนประเทศไทยที่ได้ผลักดันความร่วมมือด้านการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน +๓ ด้านการศึกษาเป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--