การประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ ๔

เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ ๔ (the 4th ACMECS Foreign Minister) ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอีก ๔ ประเทศ ได้แก่ ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สหภาพพม่า และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีเลขาธิการอาเซียนเข้าร่วมด้วยเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ หลังการประชุม รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนของไทยในประเด็นดังต่อไปนี้

๑. ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ ACMECS

ความร่วมมือ ACMECS จัดตั้งมาแล้วเกือบแปดปี วัตถุประสงค์สำคัญ ได้แก่ การเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านของไทย การยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และการลดช่องว่างระหว่างประเทศสมาชิก ASEAN ทั้งนี้ ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเห็นชอบที่จะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาวุโสของ ACMECS ทบทวนสถานะการดำเนินงานที่ผ่านมา แล้วรายงานให้ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศทราบในปี ๒๕๕๔

รัฐมนตรีว่าการฯ เน้นว่า ACMECS เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับความร่วมมือในภูมิภาค ทั้งในกรอบของ GMS และ ASEAN เพื่อให้มีความเชื่อมโยงกันในภูมิภาคและเสริมซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้หารือถึงการอำนวยความสะดวกในประเด็นข้ามแดนต่าง ๆ โดยเน้นการเตรียมความพร้อมของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การใช้ประโยชน์จากสถาบันที่มีอยู่ เช่น สถาบันแม่โขง สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) และความร่วมมือภายใต้คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission—MRC) สำหรับด้านความร่วมมือกับภาคเอกชนนั้น มีการหารือถึงเรื่อง contract farming การพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน เพื่อสร้างงานและส่งเสริมให้เอกชนเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีฯ จะเสนอร่างปฏิญญาพนมเปญและร่างแผนปฏิบัติการ ACMECS ค.ศ. ๒๐๑๐-๒๐๑๒ ให้ที่ประชุมระดับผู้นำ (ACMECS Summit) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ พิจารณาให้การรับรองด้วย

๒. การพบทวิภาคีและการลงนามความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างไทยกับกัมพูชา

ภายหลังจากการประชุมผู้นำ ACMECS ในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ นายกรัฐมนตรีของไทยกับกัมพูชามีกำหนดการที่จะพบกันเพื่อหารือถึงประเด็นต่าง ๆ รวมทั้ง เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ความร่วมมือทวิภาคี และการให้ความช่วยเหลือของไทยแก่กัมพูชา ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกับกัมพูชาจะร่วมลงนามในความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา โดยมีนายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งความตกลงดังกล่าวจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น และประชาชนของทั้งสองฝ่ายสามารถไปมาหาสู่กันได้โดยสะดวก

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--