ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมกรอบความร่วมมือเอเชีย-ตะวันออกกลาง (Third Asia - Middle East Dialogue Ministerial Meeting: AMED III) ครั้งที่ ๓ ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๓ ณ ศูนย?ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพ ภายใต้หัวข้อหลัก (theme) “Strengthening Cooperation towards Common Prosperity” โดยมีผู้แทนระดับรัฐมนตรี ภาคเอกชนและประชาสังคมของประเทศสมาชิกเข้าร่วมกว่า ๕๐๐ คน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการรวมบุคคลระดับรัฐมนตรีของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย และตะวันออกกลางมากที่สุดครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ AMED III ถือเป็นเวทีเชื่อมความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติและแห่งภูมิภาคร่วมกัน
ประเด็นสำคัญที่จะมีการหารือกันระหว่างการประชุม AMED ครั้งที่ ๓ ครอบคลุมทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยมุ่งเน้นถึงการหาลู่ทางสร้างเสริมความร่วมมือระหว่างกันเพื่อแก้ไขประเด็นที่ท้าทาย และเป็นภัยคุกคามต่าง ๆ ในโลกปัจจุบัน อาทิ การต่อต้านการก่อการร้าย ปัญหาโจรสลัดและความมั่นคงทางทะเล วิกฤติการณ?เศรษฐกิจ โอกาสทางเศรษฐกิจในสองภูมิภาค การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สำหรับประเทศไทยแล้ว นอกจากการสร้างโอกาสให้ประเทศไทยได้มีโอกาสเพิ่มพูนปฏิสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคทั้งสองแล้ว การประชุม AMED ครั้งที่ ๓ นี้ยังช่วยเปิดโอกาสให้ทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงภาคประชาสังคมของไทยสามารถเข้าถึงโลกมุสลิมและมีความตื่นตัว รู้จักเรียนรู?และเข้าใจเกี่ยวกับศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี และสังคมของชาวตะวันออกกลาง รวมไปถึงเกี่ยวกับภูมิภาคตะวันออกกลาง/ประเทศสมาชิก AMED มากขึ้น ในอีกมุมมองหนึ่ง การจัดการประชุมระหว่างประเทศขึ้นในไทยย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในประเทศในหลายด้าน เป็นการนำรายได้เข้าประเทศ ในฐานะประเทศเจ้าภาพ และเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่ไทยจะประชาสัมพันธ์สาขาที่ไทยมีศักยภาพในสายตาชาวโลก อาทิในฐานะอู่ข้าวอู่น้ำของโลก ศูนย์กลางด็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ แหล่งท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลดีตอความเชื่อมั่นในสายตานานาชาติและเพิ่มความมั่นใจของนักธุรกิจให้มาลงทุน หรือติดต่อซื้อขายกับไทยมากขึ้น รวมไปถึงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น เป็นต้น
AMED มีประเทศสมาชิก ๕๐ ประเทศทั้งจากเอเชียและตะวันออกกลาง โดยการประชุมระดับรัฐมนตรี AMED เป็นการประชุมที่มีขึ้นทุก ๆ ๒ ปี โดยประเทศเอเชียและประเทศตะวันออกกลางจะสลับกันเป็นประธาน และเจ้าภาพจัดการประชุม ประเทศผู้ริเริ่ม AMED คือสิงคโปร์ โดยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม AMED ครั้งแรก เมื่อปี ๒๕๔๘ และอียิปต์เป็นเจ้าภาพ AMED ครั้งที่ ๒ เมื่อปี ๒๕๕๑ กรอบความร่วมมือ AMED ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการหารืออย่างไม่เป็นทางการ ที่มีความยืดหยุ่น และเป็นเวทีที่เปิดกว้างกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ หรือภาคประชาสังคม โดยผลของการหารือจะเป็นในรูปแบบการเสนอแนะเชิงนโยบาย (policy recommendation) ต่อรัฐบาลของประเทศสมาชิก
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--