พิธีส่งกองกำลังรักษาสันติภาพในภารกิจรักษาสันติภาพผสมระหว่างสหภาพแอฟริกาและสหประชาชาติในดาร์ฟูร์ (African Union-United Nations Hybrid Operation in Darfur: UNAMID)

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 7, 2010 07:19 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๒๐.๓๐ น. ณ ท่าอากาศยานทหาร (ฝูงบิน ๖๐๑) ดอนเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและกล่าวให้โอวาทแก่กำลังพลของกองกำลังเฉพาะกิจ ๙๘๐ ไทย/ดาร์ฟูร์ ในพิธีส่งกองกำลังรักษาสันติภาพของไทยเพื่อเข้าร่วมภารกิจรักษาสันติภาพผสมระหว่างสหภาพแอฟริกากับสหประชาชาติในดาร์ฟูร์ ประเทศซูดาน หรือยูนามิด (African Union-United Nations Hybrid Operation in Darfur: UNAMID) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการ ๓ เหล่าทัพ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงกลาโหม และคณะทูตานุทูตต่างประเทศร่วมเป็นสักขีพยาน

ภารกิจ UNAMID จัดตั้งขึ้นตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๐ โดยมีหน้าที่หลักในการคุ้มครองความปลอดภัยแก่ประชาชน เจ้าหน้าที่และพลเรือนที่ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม รวมทั้งส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม

ในภารกิจดังกล่าว กองกำลังทหารไทยมีหน้าที่หลักในการดูแลความสงบเรียบร้อย การปกป้องคุ้มครองประชาชน สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก การดูแลความปลอดภัยในการเดินทางและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติและองค์กรด้านมนุษยธรรม และการให้บริการทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในดาร์ฟูร์

ในการนี้ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวรายงานความเป็นมาของปฏิบัติการดังกล่าวว่า ประเทศไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติมีบทบาทอย่างแข็งขันต่อเนื่องมาโดยตลอดในภารกิจการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ โดยได้เข้าร่วมภารกิจดังกล่าวของสหประชาชาติมาแล้วทั้งหมด ๒๐ ครั้ง เช่นที่ประเทศกัมพูชา อิรัก ติมอร์-เลสเต และบุรุนดี ตามนโยบายของรัฐบาลไทยในการขยายบทบาทเชิงรุกในเวทีสหประชาชาติในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และเพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของเพื่อนมนุษย์ในฐานะพลเมืองที่ดีของประชาคมโลก ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวจากนอกภูมิภาคแอฟริกาที่ส่งกองกำลังในระดับกองพันทหารราบเข้าร่วมในภารกิจ UNAMID นี้ นับว่าเป็นการประสานนโยบายและปฏิบัติการด้านการต่างประเทศกับด้านกลาโหม ซึ่งกำลังพลทุกนายในทุกระดับชั้น นอกจากจะต้องปฏิบัติหน้าที่ทางทหารแล้ว ยังทำหน้าที่เสมือนทูตสันถวไมตรีด้วย โดยที่ผลงานของทหารไทยเป็นที่ประทับใจของประชาคมระหว่างประเทศมาแล้ว ในภารกิจที่ติมอร์-เลสเต

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้โอวาทแก่กำลังพลของกองกำลังเฉพาะกิจ ๙๘๐ ว่า ภารกิจในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เพื่อนมนุษย์แล้ว กำลังพลทุกนายยังควรภาคภูมิใจที่ได้ช่วยยกระดับบทบาท ภาพลักษณ์ ศักดิ์ศรี และเกียรติภูมิของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ กองทัพเป็นกลไกหลักของรัฐบาลในการรักษาพันธกรณีของไทยที่ต้องมีส่วนร่วมในการธำรงรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยรักษาดุลอำนาจของไทยในเวทีสากลด้วย ในการนี้ ขอชื่นชมหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้มีการบูรณาการยุทธศาสตร์ร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของชาติในระยะยาว และขออวยพรให้กำลังพลทุกนายประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ และนำความภาคภูมิใจกลับมาสู่ประชาชนชาวไทยทุกคน

การเข้าร่วมภารกิจ UNAMID ถือได้ว่าเป็นพัฒนาการที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของไทยในฐานะรัฐสมาชิกสหประชาชาติ เนื่องจากต้องมีความพร้อมด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อการดำรงหน่วยในภูมิประเทศที่ห่างไกลและมีสภาพแวดล้อมแตกต่างจากไทย เช่น ค่ายพักทหารปรับอากาศเพื่อรองรับสภาพอากาศร้อนแบบทะเลทราย เครื่องขุดเจาะและกรองน้ำบาดาล อุปกรณ์โทรคมนาคมและสื่อสารทางไกล และโรงพยาบาลสนาม ในขณะที่ทหารไทยต้องได้รับการฝึกอย่างเข้มข้น ทั้งร่างกาย จิตใจ และยุทธการ นับเป็นการแสดงมิตรไมตรีที่พร้อมจะเสียสละเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่ด้อยโอกาส ประสบความเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือและร่วมสร้างสันติภาพโลก

การเข้าร่วมภารกิจครั้งนี้จะส่งผลดีต่อไทยในการเสริมสร้างภาพลักษณ์และการยอมรับในสายตาของประชาคมโลก เป็นการแสดงเกียรติภูมิของกองทัพไทย และเป็นโอกาสกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซูดานอีกด้วย

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ