ในวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๓ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะ มีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ตามคำเชิญของรัฐบาลแห่ง สปป. ลาว เพื่อเข้าร่วมพิธีฉลองการเปิดโครงการอเนกประสงค์น้ำเทิน ๒ ที่แขวงคำม่วน สปป. ลาว หลังจากนั้นในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางต่อไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อเยี่ยมคารวะและพบหารือทวิภาคีกับผู้นำระดับสูงของ สปป. ลาว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย - ลาว ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมเนื่องในวาระฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - ลาว ที่จะครบรอบ ๖๐ ปี ในวันที่ ๑๙ ธันวาคม ศกนี้
ในการฉลองการเปิดโครงการอเนกประสงค์น้ำเทิน ๒ ฯพณฯ จูมมาลี ไซยะสอน ประธานประเทศแห่ง สปป. ลาว ทำหน้าที่เป็นประธานพิธี โดยแขกกิตติมศักดิ์นอกจากนายกรัฐมนตรีแล้วประกอบด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การคลัง และอุตสาหกรรมของสาธารณรัฐฝรั่งเศส กรรมการผู้จัดการกลุ่มธนาคารโลก (World Bank) และประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) นอกจากนี้ ยังมีผู้เข้าร่วมจากภาคเอกชนไทย ลาว และฝรั่งเศส ด้วย
โครงการอเนกประสงค์น้ำเทิน ๒ ถือเป็นความสำเร็จของ สปป. ลาว โดยไม่เพียงเป็นเขื่อนที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดในลาวเท่านั้น หากยังได้รับการยกย่องให้เป็นโครงการตัวอย่างของการพัฒนาเพื่อสร้างรายได้ ควบคู่ไปกับการมีระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและชุมชนซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งนี้ ภาคเอกชนไทย ได้แก่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ผลิตไฟฟ้า (ECGO) จำกัด (มหาชน) ได้เข้าไปร่วมลงทุนก่อสร้างกับรัฐบาลลาว และบริษัท EDF International ของสาธารณรัฐฝรั่งเศสด้วย ปัจจุบันบริษัทผลิตไฟฟ้า (ECGO) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นมากเป็นลำดับที่ ๒ หรือร้อยละ ๓๕ และเป็นนักลงทุนชาวไทยรายเดียวที่จะร่วมดำเนินโครงการต่อไป โครงการนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สำคัญระหว่าง สปป. ลาวกับประเทศไทย
สำหรับการเยือนนครหลวงเวียงจันทน์ นายกรัฐมนตรีและคณะ มีกำหนดการเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ บุนยัง วอละจิด รองประธานประเทศแห่ง สปป. ลาว และหารือทวิภาคีกับ ฯพณฯ บัวสอน บุบผาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีไทย - ลาว จะร่วมเป็นประธานพิธีเปิดใช้โครงการไฟส่องทางจากสะพานมิตรภาพเข้าสู่นครเวียงจันทน์ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลาง มูลค่าประมาณ ๒๑ ล้านบาท ให้ความช่วยเหลือติดตั้ง เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ ๔๕๐ ปี นครหลวงเวียงจันทน์ และ ๖๐ ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตฯ และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาเงินกู้โครงการถนนหมายเลข ๑๑ ที่ฝ่ายไทยให้ความช่วยเหลือทางการเงินในรูปเงินกู้ผ่อนปรน รวมมูลค่าประมาณ ๑,๔๐๐ ล้านบาท
การเยือนครั้งนี้ เป็นการเยือน สปป.ลาว ครั้งที่ ๓ ของนายกรัฐมนตรีภายหลังที่เข้ารับตำแหน่ง โดยครั้งแรกเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๒ และครั้งที่ ๒ เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ ๒๕ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๒
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--