เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๘.๓๐ น. นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือทวิภาคีกับศาสตราจารย์กามินิ ลักช์มัน เพริส (His Excellency Professor Gamini Lakshman Peiris) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในโอกาสเข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย - ตะวันออกกลาง ครั้งที่ ๓ (Third Asia - Middle East Dialogue Ministerial Meeting: AMED III)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีในหลายเรื่อง โดยรัฐมนตรีว่าการฯ ศรีลังกาได้ใช้โอกาสนี้แจ้งให้ฝ่ายไทยทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประเทศของศรีลังกาว่า ขณะนี้ สถานการณ์ความขัดแย้งได้สิ้นสุดลงและสถานการณ์ก็ได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว เศรษฐกิจของศรีลังกากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และการท่องเที่ยวก็ดำเนินไปด้วยดี และได้กล่าวขอบคุณไทยที่รัฐบาลไทยให้ความร่วมมือในด้านต่าง ๆ แก่รัฐบาลศรีลังกาด้วยดีมาโดยตลอด ในส่วนของรัฐมนตรีว่าการฯ ก็ได้แสดงความยินดีกับศรีลังกาและแสดงความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือเพื่อการพัฒนากับศรีลังกาให้มากขึ้น โดยเฉพาะด้านวิชาการ ด้านเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในด้านนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เสนอให้มีความร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยของสองประเทศด้วย
รัฐมนตรีว่าการฯ แจ้งว่า ฝ่ายไทยประสงค์จะส่งคณะนักธุรกิจนำโดยนายเกียรติ สิทธิอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย เยือนศรีลังกาในปีหน้าเพื่อไปสำรวจลู่ทางในการลงทุน อาทิ ด้านการก่อสร้าง สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยออกไปแสวงหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการฯ ศรีลังกาได้แสดงความพร้อมที่จะให้การต้อนรับด้วยดีและจัดให้พบกับผู้แทนหอการค้าและภาคเอกชนของศรีลังกา รวมทั้งกล่าวเสริมว่า โดยที่การท่องเที่ยวของศรีลังกากำลังเติบโต อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น การก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ท ก็น่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับธุรกิจของไทย
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต่อการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ในระดับประชาชน โดยความร่วมมือด้านหนึ่งที่สามารถเพิ่มพูนได้ คือ ความร่วมมือในด้านศาสนา เนื่องจากไทยและศรีลังกาต่างเป็นเมืองพุทธ อาทิ การช่วยดูแลและบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถาน และการจาริกแสวงบุญไปยังสถานที่สำคัญทางศาสนา
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะให้มีการจัดประชุมคณะกรรมาธิการร่วมในระดับรัฐมนตรีในโอกาสแรก โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือต่าง ๆ ให้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้นต่อไปด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--