เมื่อ 23 ธันวาคม 2553 ณ กรุงอังการา นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบกับนายซาแฟร์ ชาลายาน รัฐมนตรีการค้าต่างประเทศของตุรกี เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับตุรกี
รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวถึงความคล้ายคลึงระหว่างไทยกับตุรกี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ทั้งสองประเทศต่างมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ซึ่งถือเป็นประตูสำคัญไปสู่ภูมิภาคนั้น ๆ ไทยกับตุรกีจึงสามารถพัฒนาเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันได้ โดยมีสาขาความร่วมมือที่มีศักยภาพ เช่น สาขาก่อสร้าง อุตสาหกรรมการเกษตร การท่องเที่ยว พลังงาน และเครื่องประดับ ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะให้การสนับสนุนภาคเอกชนของสองฝ่ายอย่างเต็มที่และจัดให้มีกลไกทางกฏหมายที่จะสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือในสาขาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม
เพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือและการปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับตุรกี รัฐมนตรีการค้าต่างประเทศของตุรกีได้ตอบรับคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการฯ ที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย พร้อมกับคณะนักธุรกิจในปี 2554 ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แจ้งว่า จะนัดพบหารือกับผู้แทนภาคเอกชน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย เพื่อแจ้งให้ทราบถึงความสำคัญและศักยภาพทางเศรษฐกิจของตุรกี นอกจากนี้ ไทยจะส่งคณะนักธุรกิจมาเยือนตุรกีเพื่อเป็นการต่อยอดการเยือนตุรกีอย่างเป็นทางการในครั้งนี้
ในวันเดียวกันนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยเทคนิคตะวันออกกลาง (Middle East Technical University: METU) เพื่อบรรยายพิเศษในหัวข้อนโยบายด้านการต่างประเทศเชิงรุกของไทย โดยรัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวว่า เนื่องจากไทยเป็นสังคมที่เป็นประชาธิปไตยและเปิดกว้าง และเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาความร่วมมือจากต่างชาติ จึงส่งผลให้ไทยมีนโยบายต่างประเทศเชิงรุกทั้งในกรอบทวิภาคี ภูมิภาค และพหุภาคี โดยรัฐมนตรีว่าการฯ ได้ยกตัวอย่างบทบาทของไทยในองค์กรความร่วมมือระดับภูมิภาค เช่น อาเซียน ความร่วมมือในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ฯลฯ ตลอดจนบทบาทของไทยในองค์การสหประชาชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เป็นประธานในพิธีเปิดมุมไทยในมหาวิทยาลัยเทคนิคตะวันออกกลางซึ่งจะเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยที่จะช่วยให้ชาวตุรกีมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
For further information, please contact the Press Division, Department of Information, Ministry of Foreign Affairs, Tel.02-6435170, Fax.02-6435169, E-mail: div0704@mfa.go.th