เมื่อ 24 ธันวาคม 2553 ณ นครอิสตันบูล นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบกับนายอาห์เหม็ด ดาวูโตลู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกี โดยได้หารือกันอย่างกว้างขวางในประเด็นที่เกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย ตลอดจนประเด็นในภูมิภาคและระดับนานาชาติซึ่งทั้งสองประเทศมีความสนใจและห่วงกังวลร่วม
ในช่วงการแถลงข่าวร่วมระหว่างรัฐมนตรีว่าการฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกีหลังจากเสร็จสิ้นการหารือนั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวว่า การเยือนตุรกีในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองในระยะเวลาหนึ่งปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของไทยอย่างแน่วแน่ที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับตุรกี และได้กล่าวอีกว่า ตนได้ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยความคาดหวังสูง และจะเดินทางออกจากนครอิสตันบูลด้วยความมั่นใจหลังจากที่ได้พบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีการค้าต่างประเทศ และองค์กรของภาคเอกชนต่าง ๆ ของตุรกี นอกจากนี้ โดยที่ไทยและตุรกีมีมุมมองในด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนกัน อีกทั้ง ไทยและตุรกีต่างมีบทบาทสำคัญในภูมิภาคของตน จึงส่งผลให้ทั้งสองประเทศสามารถเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กันได้โดยปริยาย
รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับตุรกีครอบคลุมรอบด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองความมั่นคง การทหาร การลงทุน การค้า การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม โดยทั้งสองฝ่ายจะให้การสนับสนุนภาคเอกชนอย่างเต็มที่เพื่อให้ศักยภาพในความร่วมมือระหว่างสองประเทศมีผลเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างไทยและตุรกีจะไม่จำกัดแค่ในกรอบทวิภาคีแต่จะขยายไปสู่ความร่วมมือในประเทศที่สามตลอดจนในกรอบพหุภาคี รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวอีกว่า ภารกิจเร่งด่วนในปีหน้าคือการจัดทำความตกลงต่าง ๆ ที่สองฝ่ายกำลังพิจารณาให้แล้วเสร็จ และใช้ประโยชน์จากความตกลงที่ได้มีการลงนามระหว่างกันแล้วอย่างเต็มที่ อีกทั้งสนับสนุนการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายควรดำเนินการเพื่อให้ประชาชนในสองประเทศรับทราบถึงกันและกันซึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่ความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกันต่อไป ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ เชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายมีหน้าที่ในการนำความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันไปปฏิบัติให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการฯ ได้พบกับนายริฟัต ฮิซาร์จึกลึโอลู ประธานสภาหอการค้าตุรกี และสมาชิกอื่น ๆ ของสภาความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับตุรกี ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริม “ความเชื่อมโยง” ระหว่างกัน โดยผ่านเส้นทางสายไหมสายใหม่ ซึ่งจะเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียตะวันออกกับเอเชียตะวันตก ผ่านไทย พม่า อินเดีย ปากีสถาน อิหร่าน และตุรกี ทั้งสองฝ่ายยังได้ตกลงที่จะร่วมมือกันในประเด็นเรื่องกระบวนการทางศุลกากรและการจัดทำเอกสารสำหรับการผ่านแดนซึ่งเป็นที่ยอมรับระหว่างกันเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการขนส่งสินค้าข้ามแดน นอกจากนี้ สองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะแลกเปลี่ยนคณะนักธุรกิจเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ทราบถึงศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจในแต่ละภูมิภาคด้วยตนเอง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--