เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๔ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปาฐกถาเรื่อง “วิสัยทัศน์และนโยบายด้านสังคมของรัฐบาล” ณ ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง การกล่าวปาฐกถาฯ ประกอบด้วยผู้แทนคณะทูตต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ หน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ องค์กรเอกชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน ประมาณ ๓๐๐ คน สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีได้ย้ำ ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายสังคม โดยเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายตอบสนองความต้องการของสังคมอย่างแท้จริง โดยให้ความสำคัญลำดับแรกกับ ๓ ประเด็นหลักได้แก่ (๑) การสร้างโอกาสและพัฒนาศักยภาพ/ขีดความสามารถ (๒) การปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน และ (๓) การให้มีหลักประกันทางสังคมและสวัสดิการเพื่อความมั่นคงของชีวิตแก่ทุกภาคส่วน
เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา รัฐบาลได้นำเสนอแผนปฏิรูปเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยในแผนดังกล่าว รัฐบาลจะดำเนินการตามแผนสวัสดิการสังคมเพื่อให้ประโยชน์แก่ประชาชนนับล้านคน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยได้รับสวัสดิการดังกล่าวมาก่อน
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะดำเนินนโยบายด้านสังคมเพื่อให้ชาวไทยทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ความเหลื่อมล้ำลดลง และให้ทุกภาคส่วนของสังคมเจริญรุ่งเรืองภายใต้ระบบเศรษฐกิจที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกัน ในระยะเวลา ๒ ปีที่ผ่านมาของการเป็นรัฐบาล ประชาชน ๑๒ ล้านคนสามารถเข้าถึงการเรียนฟรี ๑๕ ปี และมีระบบประกันสุขภาพอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งดำเนินนโยบายให้ประชาชนทุกคนได้รับสวัสดิการขั้นพื้นฐานถ้วนหน้าภายในปี ๒๕๕๙
ในมิติด้านสังคมของนโยบายต่างประเทศ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการปกป้องและคุ้มครองสิทธิของบุคคล ความมั่นคงของมนุษย์ และการพัฒนามนุษย์ โดยไทยได้เป็นสมาชิกและประธานคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และยังผลักดันให้ความสำคัญกับสิทธิของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสต่าง ๆ เช่น เด็กและสตรี คนพิการ และชนกลุ่มน้อย นอกจากนี้ เพื่อเป็นการดำเนินนโยบายขจัดและบรรเทาความยากจนในประเทศต่าง ๆ รัฐบาลได้เสนอและดำเนินโครงการในกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาด้วยกันเอง (South-South Cooperation) และสร้างความเข้มแข็งในนโยบายการทูตด้านสาธารณสุข (Health Diplomacy) เพื่อเพิ่มความตระหนักในปัญหาที่มีร่วมกันอันเกิดจากภัยด้านสุขภาพ โรคติดต่อข้ามชาติ และภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ ส่วนการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม นั้น ไทยได้ให้ที่พักพิงและดูแลผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือมาโดยตลอด
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสรุปว่า รัฐบาลมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและมุ่งมั่นที่จะดำเนินการและผลักดันนโยบายด้านสังคมต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ของทุกภาคส่วนและประชาชนไทยต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--