นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดการติดตามนายกรัฐมนตรีเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปี World Economic Forum (WEF) ครั้งที่ ๔๑ ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ ๒๘ — ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔ โดยหัวข้อหลักของการประชุมในปีนี้ คือ “Shared Norms for the New Reality” ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของผู้นำโลกเกี่ยวกับความซับซ้อนและความเชื่อมโยงของประเด็นต่าง ๆ ภายหลังวิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมถึงการเสื่อมถอยของคุณค่าและหลักการที่ประชาคมโลกยึดถือร่วมกัน และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเมืองในอนาคต โดยการประชุมดังกล่าวจะมีผู้นำภาครัฐ นักธุรกิจชั้นนำ และผู้นำจากภาควิชาการ รวมทั้งสื่อมวลชนชั้นนำเข้าร่วม
นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสในการประชุมดังกล่าว แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายเสริมสร้างการเจริญ เติบโตที่ครอบคลุม (inclusive growth) ภายหลังวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยแสดงถึงความเป็นผู้นำและแนวทางของรัฐบาลไทยต่อการเสริมสร้างความเท่าเทียมด้านสังคม รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนตามแนวนโยบาย อีกทั้งชี้แจง ทำความเข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในการประชุมหัวข้อต่างๆ ได้แก่ ‘Towards a New Growth Model’, ‘Social Contract for the 21st Century’ และ ‘Creating Shared Norms : The Century’s Leadership Challenge’
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้ในการอภิปรายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของภาคเอกชนไทยในด้านที่ไทยเป็นผู้นำในตลาดโลก เช่น ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ในการประชุมหัวข้อต่างๆ ได้แก่ ‘Thailand and Global Automotive Industry’ และ ‘Stabilizing Commodity Prices and Supply in a Resource-Constrained World’ รวมทั้งการหารือทวิภาคีกับผู้บริหารขององค์กรเอกชนชั้นนำต่าง ๆ
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้หารือกับศาสตราจารย์ Klaus Schwab ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหาร World Economic Forum โดยมีสาระสำคัญในเรื่องการได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม World Economic Forum on East Asia ของประเทศไทยในปี ๒๕๕๕ รวมถึงการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทยกับ WEF ในการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของไทย
ต่อมาในวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๔ นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการฯ จะเข้าร่วมการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำภูมิภาคยุโรป ประจำปี ๒๕๕๔ ณ นครซูริค โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมฯ เพื่อมอบนโยบายและแลกเปลี่ยนทัศนะกับเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ประจำภูมิภาคยุโรป ทั้งนี้ ประเด็นที่คาดว่าจะมีการหยิบยกในที่ประชุมฯ ได้แก่ การส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างไทยกับภูมิภาคยุโรป การส่งเสริมภาคเอกชนไทยไปลงทุนในภูมิภาคยุโรป การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทย การเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดีเลิศ (Best practices) และองค์ความรู้ต่าง ๆ จากยุโรป รวมทั้งการส่งเสริมภาพลักษณ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประเทศไทยต่อรัฐบาลและสื่อมวลชนยุโรป อนึ่ง การประชุมฯ ในครั้งนี้จะมีเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำภูมิภาคยุโรปรวม ๒๓ แห่ง เข้าร่วมการประชุมฯ
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่สมาพันธรัฐสวิส นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในทันที ในขณะที่ รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดการเดินทางต่อไปยังสาธารณรัฐสโลวีเนียตามคำเชิญของนาย Samuel Zbogar รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสโลวีเนีย ระหว่างวันที่ ๓๑ มกราคม — ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ โดยการเยือนสาธารณรัฐสโลวีเนียในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี และเพื่อลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย — สโลวีเนีย ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่ดีในการผลักดันให้มีการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้เพิ่มขึ้น รวมถึงศึกษาลู่ทางในการขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะความเป็นไปได้ในการใช้สโลวีเนียเป็นประตูทางการค้าสู่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปใหม่ และภูมิภาคบอลข่าน โดยรัฐมนตรีว่าการฯ จะมีโอกาสหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสโลวีเนีย นักวิชาการ และนักธุรกิจสโลวีเนีย รวมทั้งเข้าเยี่ยมคารวะนาย Borut Pahor นายกรัฐมนตรีสโลวีเนีย และประธานรัฐสภาสโลวีเนียอีกด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--