เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๔ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทางวิชาการ เรื่อง “มัสยิดในกลุ่มประเทศอาเซียนกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบยั่งยืน” โดยมีนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และนายสมัย เจริญช่าง ประธานคณะกรรมการจัดการประชุมฯ เข้าร่วมในการแถลงข่าวดังกล่าวด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสภามัสยิดอาเซียน (Forum of the World Masjid for Integrity, Solidarity and Prosperity — FORSIMAS) สำนักจุฬาราชมนตรี คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร และมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย จะจัดการประชุมทางวิชาการดังกล่าว ระหว่างวันที่ ๒ — ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ กรุงเทพมหานคร โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม ในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ และรัฐมนตรีว่าการฯ จะกล่าวในหัวข้อเรื่อง “กระทรวงการต่างประเทศกับโลกมุสลิม” ในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ โดยการประชุมดังกล่าว เป็นโอกาสที่ผู้บริหารมัสยิด ผู้นำศาสนาอิสลาม นักวิชาการ ผู้แทนหน่วยงาน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากไทยและอาเซียน รวมประมาณ ๒๐๐ คน จะได้ปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนความเห็น และนำเสนอประสบการณ์ในการบริหารมัสยิด และส่งเสริมให้มัสยิดในอาเซียนได้มีบทบาทนำในการสร้างชุมชนมุสลิมที่เข้มแข็ง และการพัฒนามนุษย์และสังคม เพื่อให้ประชาคมมุสลิมในอาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน มีภูมิคุ้มกันต่อปัญหาทางสังคม และสามารถดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพตามหลักคุณธรรมทางศาสนาในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนั้น การประชุมผู้บริหารมัสยิดอาเซียน มีเป้าหมายในการเพิ่มพูนการติดต่อขยายความความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนระหว่างมัสยิด พร้อมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนมุสลิมของประเทศอาเซียนอีกด้วย
รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดการประชุมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ของกระทรวงการต่างประเทศต่อโลกมุสลิมที่จะสร้างความเข้าใจอันดีผ่านการแลกเปลี่ยนในด้าน ต่าง ๆ อาทิ ด้านการศึกษา ด้านวิชาการ และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงภาคประชาชนและเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับประชาคมมุสลิมอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาคมมุสลิมในอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงในระดับประชาชนต่อประชาชน รวมถึงยังเป็นการสนับสนุนการดำเนินการทูตภาคประชาชนของประเทศไทยในประเทศมุสลิม ทั้งนี้ ในปีงบประมาณนี้ กระทรวงฯ จะจัดโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับโลกมุสลิมประมาณ ๕๐ โครงการ ซึ่งให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมโลกทัศน์ของชาวไทยมุสลิม อาทิ การดูงาน/ฝึกอบรม และการมอบทุนการศึกษาให้ไปศึกษาในต่างประเทศ ตลอดจนการส่งเสริมกิจกรรมทางด้านประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆ และการบริการชาวไทยมุสลิมในเรื่องการประกอบพิธีฮัจย์ นอกจากนี้แล้ว ไทยก็จะมุ่งเน้นการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับโลกมุสลิมผ่านองค์การการประชุมอิสลาม (OIC) และองค์กรส่งเสริมวัฒนธรรมของโลกมุสลิม (ISESCO) อีกด้วย
นายสมัยฯ กล่าวว่า ในการประชุมดังกล่าว จะมีการบรรยายและการนำเสนอผลงานการบริหารงานมัสยิดของผู้แทนผู้บริหารมัสยิดในอาเซียน และจัดให้ผู้เข้าประชุมประเทศอาเซียนได้มีโอกาสพบปะชุมชนหลากวัฒนธรรมของไทยในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ชาวพุทธ ชาวมุสลิมและคริสต์ศาสนิกชนอาศัยอยู่ร่วมกัน เยี่ยมชมการดำเนินการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมูลนิธิเพื่ออิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับการเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ จุฬาราชมนตรีได้กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ของอาเซียนในมิติทางศาสนาและวัฒนธรรม โดยการจะเน้นการสร้างสังคมที่ยั่งยืนในมิติทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติของความคิดในการดำเนินชีวิตร่วมกัน และไม่เฉพาะในเรื่องศาสนาเท่านั้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--